posttoday

ขสมก.ขอ138เส้นทางเดินรถ ขู่ขึ้นค่ารถเมล์หากปล่อยเอกชนบริหาร

17 กรกฎาคม 2560

ขสมก.ชงขอ 138 เส้นทางเดินรถ ขู่ขึ้นค่ารถเมล์ขั้นต่ำ 15 บาทหากเปิดให้เอกชนบริหาร ด้านขนส่งฯยันหั่นเส้นทางถ้ามีรายได้น้อย

ขสมก.ชงขอ 138 เส้นทางเดินรถ ขู่ขึ้นค่ารถเมล์ขั้นต่ำ 15 บาทหากเปิดให้เอกชนบริหาร ด้านขนส่งฯยันหั่นเส้นทางถ้ามีรายได้น้อย

นายวีระพงษ์ วงแหวน ประธานสหภาพแรงงาน การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก.เตรียมเสนอขอเส้นทางจากกรมการขนส่งทางบกในโครงการปฏิรูปเส้นทางเดินรถ 269 เส้นทาง หลังจากที่หารือกับรักษาการผู้อำนวยการขสมก.นายสมศักดิ์ ห่มม่วง แล้วได้ข้อสรุปว่าจะขอเส้นทางทั้งสิ้นจำนวน 138 เส้นทางประกอบด้วย เส้นทางเดินรถปัจจุบัน 120 เส้นทาง และเส้นทางใหม่จำนวน 18 เส้นทาง อาทิ เมกาบางนา-บางบอน, ปากน้ำ-สีลม, ท่าเรือพระประแดง-ขนส่งหมอชิต, บรมราชชนนี-พระราม9, ศาลายส-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ(ทางด่วน)และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-รัชดาภิเษก โดยมีเงื่อนไขจำนวนรถให้บริการทั้งสิ้น 3,000 คันแบ่งเป็นรถโดยสารธรรมดา 1,277 คันและรถโดยสารปรับอากาศ 1,723 คัน

แต่จากที่ทราบว่านั้นขบ.จะพิจารณาให้เพียง 55 เส้นทางเท่ากับว่าอาจมีการเปิดช่องให้เอกชนเข้ามาผูกขาดตลาดเดินรถจึงได้นำสมาชิกสร.ขสมก.จำนวน 300 คนเข้ามายื่นข้อเรียกร้องต่ออธิบดีกรมการขนส่งทางบก ดังนั้นขอเรียกร้องว่าให้ขบ.เปิดโอกาสให้เรามีส่วนร่วมการตัดสินใจรักษาประโยชน์ประชาชน เพราะขสมก.เก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุน ถ้าเอกชนมาเข้ามาขสมก.ต้องปรับตัวเพื่อแสวงหาผลกำไร จนต้องปรับขึ้นค่ารถเมล์ขั้นต่ำ 15 บาท

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาจะมองว่าขสมก.ผูกขาดตลาดไม่ได้เพราะมีบริการหลายรูปแบบที่สนับสนุนรัฐบาลเพื่อประชาชนเช่นโครงการรถเมล์ฟรีเชื่อมต่อสามสถานีขนส่งบขส.ที่มีต้นทุนสูงถึงวันละ 14,000บาทในแต่ละเส้นทาง อีกทังขอยืนยันว่าโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่จำเป็นต้องให้มีรถเมล์วิ่งควบคู่ไปด้วยเพื่อเป็นทางเลือกของประชาชนในเมืองหลวงที่มีฐานะไม่เท่ากันจึงมีความต้องการเดินทางต่างกัน ทั้งนี้จะให้เวลาหนึ่งสัปดาห์เพื่อกลับมาทวงถามขบ.และสำนักนายกรัฐมนตรีทั้งเรื่องปฏิรูปเส้นทางเดินรถรวมถึงการเร่งรัดจัดซื้อรถเมล์ใหม่

ด้านนายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ขบ.อยู่ระหว่างพิจารณาจัดสรรเส้นทางให้กับขสมก.และภาคเอกชนว่าจะแบ่งสัดส่วนกันเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้การปฏิรูปเส้นทางใหม่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน ขสมก.จึงต้องถูกประเมินทั้งคุณภาพบริการและผลประกอบการ ถ้ารายได้ออกมาไม่ดีในอนาคตก็จะหาเอกชนมาบริการแทน เพราะปัจจุบันมีหลายเส้นทางขสมก.บริหารไม่ไหวจนต้องให้มีรถร่วมบริการ อย่างไรก็ตามมีโอกาสที่เส้นทางต่างๆในอนาคตอาจปรับเปลี่ยนไปได้จากโครงการรถไฟฟ้าหรืออาจถึงขั้นมีมากกว่า 269 เส้นทางเลยก็ได้ แต่จากหลักการแล้วจะคัดเลือกเส้นทางที่ไม่ทับซ้อนกับระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น