posttoday

ลงทุน'สตาร์ทอัพ'หมื่นล้าน

07 กรกฎาคม 2560

คาดเม็ดเงินพร้อม ลงทุนในสตาร์ทอัพไทยปี 2560 พุ่ง 1 หมื่นล้าน รัฐเร่งแก้กฎหมายเอื้อธุรกิจใน 6 เดือน

คาดเม็ดเงินพร้อม ลงทุนในสตาร์ทอัพไทยปี 2560 พุ่ง 1 หมื่นล้าน รัฐเร่งแก้กฎหมายเอื้อธุรกิจใน 6 เดือน

นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยในงาน สตาร์ทอัพไทยแลนด์จัดขึ้นวันที่ 6-9 ก.ค.ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า ในปี 2560 คาดว่าจะเกิดการจัดตั้งกองทุนเพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ คิดเป็นเม็ดเงินที่พร้อมลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพของประเทศไทยจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ถือว่าการเติบโตการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพไทยเติบโต 150% จากปีก่อน

ขณะเดียวกันกระทรวงได้เร่งผลักดันการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสตาร์ทอัพ ทั้งการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น ทั้งประเด็นเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นให้พนักงาน กฎหมายเกี่ยวกับการลงทุนในสตาร์ทอัพ หรือการอนุญาตให้บริษัทสามารถออกสตราสารหนี้แปลงสภาพ เพื่อเพิ่มช่องทางระดมทุน เป็นต้น คาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนของกฎหมายได้ภายใน 6 เดือนข้างหน้า รวมถึงข้อเรียกร้องทั้งเรื่อง สตาร์ทอัพ วีซ่า และเปิดโอกาสให้กลุ่ม ดิจิทัล นอแมด (Digital Nomad) ทำธุรกิจในไทย ซึ่งภาครัฐไม่มีความจำเป็นที่ต้อง ใช้ ม.44 แก้ไขกฎหมายในเรื่องนี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการ ทั้งยกเว้นภาษีนิติบุคคลสำหรับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เป็นเวลา 5 ปี การยกเว้นภาษี 8 ปีสำหรับธุรกิจโค-เวิร์คกิ้งสเปซ และการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกิจการร่วมลงทุนเป็นเวลา 10 ปี อีกทั้ง มีคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน พร้อมเร่งดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ

สำหรับภาพรวมจำนวนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในไทยปี 2560 มีรวม 1,500 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีจำนวนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ 700 ราย พร้อมกันนี้ในปัจจุบันมีสตาร์ทอัพ ที่อยู่ในช่วงพัฒนาแนวคิดธุรกิจรวม 8,000 ราย จากปี 2559 มีสตาร์ทอัพ ที่อยู่ในช่วงสร้างแนวคิดการทำธุรกิจรวม 5,000 ราย ถือว่าสตาร์ทอัพไทยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในทุกปี และมีกลุ่มที่สนใจสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพมากขึ้น รวมถึงการจ้างงานในสตาร์ทอัพรวมถึง 7,500 คน

นางอรรชกา กล่าวต่อว่า กระทรวงวิทย์ฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณรวม 2,500 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งกองทุน เทดฟันจ์ ส่งเสริมการลงทุนในสตาร์ทอัพ ซึ่งได้รับงบกองทุนก้อนแรกแล้ว 772 ล้านบาท คาดว่าภายในปี 2-3 เดือนข้างหน้าจะจัดตั้งรายละเอียดของกองทุนได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ได้มีการร่วมมือ กระทรวงวิทย์ฯ ได้ร่วมมือลงนามเพื่อการพัฒนากฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจแห่งผู้ประกอบการ จำนวน รวม 34 หน่วยงาน เพื่อศึกษาแนวทางการจัดตั้งศูนย์ทดสอบและพัฒนานวัตกรรมสำหรับธุรกิจใหม่แบบเศรษฐกิจแบ่งปัน หรือ เรกูลาทอรี่ แซนด์บ็อกซ์ (Regulatory Sandbox) ของสตาร์อัพ ซึ่งจะผลักดันให้เป็นแหล่งทดสอบธุรกิจและข้อบังคับต่างๆ พร้อมกับการร่วมมือพัฒนาและแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

บรรยายภาพ-ยกระดับสตาร์ทอัพ : อรรชกา สีบุญเรือง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานพร้อมเดินเยี่ยมชมบูธและพบปะผู้ประกอบการ รุ่นใหม่ ในงานสตาร์ทอัพ ไทยแลนด์ 2560 (Startup Thailand 2017) โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ระดมธุรกิจสตาร์ทอัพ ชื่อดังจากทั่วโลกและในไทยร่วมงาน ภายใต้ธีม "SCALE UP ASIA" ยกระดับความเป็นสากล ระหว่างวันที่ 6-9 ก.ค. 2560 ที่ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์