posttoday

ดัน3ท่าเรือรับสิทธิอีอีซี

28 มิถุนายน 2560

ชงบอร์ดอีอีซีเคาะ 3 ท่าเรือเป็นเขตส่งเสริมพิเศษ ย้ำตั้งเป้าเอกชน 10 รายพร้อมลงทุนปีนี้

ชงบอร์ดอีอีซีเคาะ 3 ท่าเรือเป็นเขตส่งเสริมพิเศษ ย้ำตั้งเป้าเอกชน 10 รายพร้อมลงทุนปีนี้

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยว่า วันที่ 19 ก.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายอีอีซี ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยวาระสำคัญคือเสนอให้กำหนดพื้นที่โดยรอบ 3 ท่าเรือในพื้นที่อีอีซี ประกอบด้วยท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด และท่าเรือสัตหีบ เป็นเขตส่งเสริมพิเศษเพิ่มเติม ซึ่งเขตส่งเสริมพิเศษจะเป็นเขตที่ได้รับสิทธิประโยชน์ของอีอีซี 100%

นอกจากนี้ จะติดตามความ คืบหน้า 4 โครงการลงทุนเร่งด่วนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จะลงทุนภายในปีนี้ ประกอบด้วยสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 2 ท่าเรือมาบตาพุดเฟส 2 และรถไฟความเร็วสูง รวมถึงการวางระบบขนส่งสินค้าและระบบขนส่งมวลชนที่เชื่อมโยงทั้งภาคการผลิต ภาคบริการ และท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดอีอีซี โดยจะเสนอแผนการพัฒนาด้านการ ท่องเที่ยว เพื่อให้ทุกภาคส่วนเป็นมหานครร่วมกัน นอกจากนี้จะรายงานความคืบหน้าเอกชนที่สนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซี ซึ่งตั้งเป้าหมายปีนี้จำนวน 30 ราย และปัจจุบันมีการตัดสินใจแล้วจำนวน 10 ราย

สำหรับบริษัทเอกชน 10 ราย เช่น บริษัทเครื่องบินแอร์บัส ร้านค้าออนไลน์ชั้นนำของโลกลาซาด้า ค่ายรถยนต์โตโยต้าและฮอนด้า ขณะที่กลุ่มบริษัทที่พร้อม ลงทุนใช้หุ่นยนต์ในระบบโลจิสติกส์ เช่น ปูนซิเมนต์ไทย โฮมโปร และล่าสุดเครื่องบินโบอิ้ง มีความสนใจเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยานและการฝึกอบรม ด้านบริษัท เทสล่า ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายังอยู่ระหว่างการประสานในการเจรจา โดยเอกชนเหล่านี้คาดว่าจะมีบางรายที่เข้าเกณฑ์ พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรม วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ที่สามารถได้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 15 ปี

"ส่วน พ.ร.บ.อีอีซี ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ปรับปรุงรายละเอียด เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้มีผลบังคับใช้เดือน ต.ค.นี้" นายคณิศ กล่าว