ไทยสมายล์มั่นใจปีนี้ทำกำไรเป็นปีแรก รายได้แตะหมื่นล้าน

ไทยสมายล์ฟุ้งพลิกกำไรปีแรก ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ต่อเนื่อง 20% -เตรียมเปิดบินตรงเซบูมัดใจนักดำน้ำ-พร้อมเพิ่มเที่ยวบินตลาดจีน

แหล่งข่าวจากสายการบินไทยสมายล์เปิดเผยว่า ปีนี้จะเป็นปีแรกที่สายการบินไทยสมายล์ทำกำไรได้แน่นอนโดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ทั้งปีแตะ 1 หมื่นล้านบาทจากปัจจัยหนุนด้านการนำระบบจองตั๋วรูปแบบใหม่มาใช้และการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสาร อีกทั้งไทยสมายล์ยังมีแผนที่จะเพิ่มรายได้อีกราว 10-20% จากการนำระบบสำรองตั๋วโดยสารใหม่ที่ชื่อว่าอะมาดิอุสนำมาใช้เชื่อมต่อกับผู้จัดจำหน่ายและสายการบินจากทั่วโลกมาใช้แทน เพื่อขยายฐานลูกค้าที่ซื้อตั๋วโดยสารผ่านออนไลน์ โดยจะเริ่มเห็นความชัดเจนของการเติบโตของยอดรายได้เริ่มตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะทำจัดทำข้อตกลงการบินโดยใช้รหัสเที่ยวบินร่วมกัน(โค้ดแชร์)กับสายการบินในกลุ่มพันธมิตรเพิ่มเติมอีก 20 ราย อาทิ สายการบินลุฟท์ฮันซา,ออลนิปปอนแอร์เวย์,แควนตัส แอร์เวย์,คาเธ่ย์แปซิฟิค  , แอร์ฟรานซ์  สิงคโปร์แอร์ไลน์  เป็นต้น เพื่อขยายเครือข่ายเส้นทางการให้บริการแก่ลูกค้าครอบคลุมเส้นทางทั่วโลก

สำหรับความคืบน้าด้านการขยายเส้นทางการบินเพื่อรับรายได้โตในอนาคตนั้น ไทยสมายล์เตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพ-เซบู (ฟิลิปปินส์) และ กรุงเทพ-เกาสง (ไต้หวัน) สำหรับเส้นทางบินตรงประเทศฟิลิปปินส์คาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงต้นเดือนก.ย.จำนวน4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ หวังมัดใจกลุ่มนักท่องเที่ยวดำน้ำและกลุ่มคนทำงานบนเรือขนาดใหญ่ ส่วนเส้นทางบินตรงประเทศไต้หวัน จะเปิดให้บริการภายในเดือนต.ค.นี้ จำนวน 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เชื่อว่าเส้นทางบินนี้จะได้รับความสนใจเป็นอย่างมากหลังจากรัฐบาลไตหวันประกาศยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวไทยที่พำนักในไต้หวันไม่เกิน 30 วัน

นอกจากนี้ไทยสมายล์ได้เตรียมจัดทำ ตารางบินฤดูหนาวปี2560 เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวไว้แล้ว ซึ่งจะเริ่มทำการบินตั้งแต่ต.ค.2560-มี.ค. 2561  โดยเตรียมเปิดเส้นทางบินเพิ่มจำนวน 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพ- มัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และ  กรุงเทพ –หลวงพระบาง  ประเทศลาว จำนวน 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ขณะที่เส้นทางบินใหม่ที่สายการบินเปิดให้บริการล่าสุดในใหญ่อย่างประเทศจีนและอินเดียนั้นได้การตอบรับเป็นอย่างดีโดยเส้นทาง  กรุงเทพ-ชัยปุระ เที่ยวไปและเที่ยวกลับ โดยมีอัตรการบรรทุกผู้โดยสาร(เคบินแฟคเตอร์)สูงถึง 80%  ส่วนเส้นทาง กรุงเทพ-ลัคเนา มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารที่60%      

ขณะที่ตลาดจีนอย่าง เส้นทาง กรุงเทพ-เจิ้งโจว มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารสูงถึง 80-90%   ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ – ฉงชิ่ง และกรุงเทพฯ – ฉางซา นั้นในเดือนก.ค. นี้  ไทยสมายล์เตรียมที่ปรับเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจาก 5 เป็น 7เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง