ขายข้าวเสื่อมช่วง3ปีคสช.เจ๊ง1.9แสนล.

ขายข้าวเสื่อมเข้าอุตสาหกรรม 5 แสนตัน แจง 3 ปี คสช.ระบายข้าวแล้ว 12.74 ล้านตัน ขาดทุน 1.9 แสนล้าน  

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้เสนอผลการพิจารณาระบายข้าวกลุ่ม 3 หรือข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภค ซึ่งเปิดประมูลไปเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2560 ให้กับประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาและได้อนุมัติขายให้กับเอกชนจำนวน 10 ราย ใน 81 คลัง ปริมาณ 5 แสนตัน จากทั้งหมดที่นำมาเปิดประมูล 1.03 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1,523 ล้านบาท

ทั้งนี้ การอนุมัติขายข้าวเสื่อมเข้าสู่อุตสาหกรรมได้กำหนดเกณฑ์ราคาที่จะอนุมัติขายให้กับผู้เสนอซื้อในราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 2,000 บาท เนื่องจากรอบนี้มีการเสนอซื้อหลากหลายราคา โดยราคาต่ำสุดอยู่ที่ตันละ 500 บาท จึงต้องกำหนดเกณฑ์ขึ้นมา ส่วนที่เสนอต่ำกว่าก็ไม่อนุมัติขาย

อย่างไรก็ตาม หากนับรวมการอนุมัติขายข้าวเสื่อมเข้าสู่อุตสาหกรรมรอบนี้ จะทำให้ตั้งแต่ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศจนถึงปัจจุบัน สามารถระบายสต๊อกรัฐบาลออกไปได้แล้ว 12.74 ล้านตัน มูลค่า 1.14 แสนล้านบาท

สำหรับการเปิดประมูลข้าวสารเป็นการทั่วไปล็อตสุดท้าย ซึ่งเป็นข้าวกลุ่ม 1 ที่ใช้เพื่อการบริโภคปกติปริมาณ 1.82 ล้านตัน โดยใน วันที่ 24 พ.ค. มีผู้ยื่นซองเสนอราคา 58 ราย จากที่ผ่านคุณสมบัติ 59 ราย โดยราคาที่เสนอซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 4,000-1.19 หมื่นบาท โดยหลังจากที่สรุปผลการเปิดซอง คณะทำงานระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาลจะประชุมในวันที่ 26 พ.ค. และเสนอผลให้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาวันที่ 31 พ.ค. ก่อนเสนอประธาน นบข.อนุมัติขาย

อย่างไรก็ตาม การส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-17 พ.ค. 2560 มีปริมาณ 4.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่า 6.65 หมื่นล้านบาท โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า ซึ่งผ่านไป 5 เดือน สามารถส่งออกได้แล้วสัดส่วน 48% ของเป้าหมายการส่งออกทั้งปี 9.5 ล้านตัน

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในช่วง 3 ปี ที่ คสช.เข้ามา บริหารมีการระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาลไปได้ 12.74 ล้านตัน มูลค่า 1.14 แสนล้านบาท  ซึ่งพบว่าขาดทุนจากต้นทุนรับจำนำข้าวรวม 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่ขาดทุนเพิ่ม มากขึ้นเนื่องจากมีการอนุมัติขายข้าวเสื่อมเข้าอุตสาหกรรมตันละ 2,000-3,000 บาท หรือกิโลกรัมละ 2-3 บาทเท่านั้น