ททท.ปรับแผนเฝ้าระวังบึ้ม

ททท.ปรับแผนรับบึ้ม หนุนไทยเที่ยวไทย สั่งสำนักงานเฝ้าระวังความปลอดภัย แบงก์ชาติคาดกระทบน้อย

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิดภายหลังเกิดเหตุระเบิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เน้นเฝ้าระวังกลุ่มที่ออกประกาศคำเตือนอย่างรวดเร็ว เช่น ฮ่องกง ล่าสุดยังไม่มีประเทศใดออกคำเตือนนักท่องเที่ยวมาไทย

ทั้งนี้ เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวมากนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น)

"เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะพื้นที่เกิดเหตุไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว และความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่รุนแรงมากนัก" นายยุทธศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ช่วงโลว์ซีซั่นนี้ ททท.จะปรับแผนการตลาดกระตุ้นนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางภายในประเทศ ผ่านการจัดกิจกรรมที่หลากหลายในแต่ละเทศกาล เช่น โครงการไทยเท่ โครงการวันธรรมดาน่าเที่ยว เป็นต้น เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเดินทางได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 154 ล้านคน/ครั้ง

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า สมาคมต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลพิจารณาออกนโยบายปลุกจิตสำนึกคนไทย การปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตของคนไทย ให้ระมัดระวัง สอดส่องภัยใกล้ตัวที่จะเกิดเหตุได้ตลอดเวลา ทุกสถานที่ ซึ่งเทรนด์ทั่วโลกมีโอกาสเผชิญเหตุดังกล่าวได้ทุกที่ทุกเวลา

พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ 34 สถานีตำรวจท่องเที่ยวระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งภายในและภายนอกเครื่องแบบเพิ่มมาตรการกวดขันด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ รวมถึงตรวจตราพื้นที่ ท่าอากาศยานทุกแห่ง ขนส่งจังหวัดทุกพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะผู้เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวถึงผลกระทบความไม่สงบต่อภาคการท่องเที่ยว ว่า โดยปกติแล้วเมื่อเกิดเหตุความไม่สงบที่ใด เกิดผลกระทบต่อจิตวิทยา ซึ่งขณะนี้ยังประเมินผลไม่ได้

ภาพประกอบข่าว