posttoday

ทอท.เตรียมตั้ง2บริษัทลูกบริหารสนามบิน จ่อเปิดรับพนักงาน2พันคน

15 พฤษภาคม 2560

ทอท.เลิกจ้างเอาท์ซอร์ส เตรียมคลอดบริษัทลูกสองแห่งบริหารสนามบินแทน เล็งต่อยอดขยายตลาดซีแอลเอ็มวี เตรียมเปิดรับสมัครพนักงานกว่า 2 พันตำแหน่ง

ทอท.เลิกจ้างเอาท์ซอร์ส เตรียมคลอดบริษัทลูกสองแห่งบริหารสนามบินแทน เล็งต่อยอดขยายตลาดซีแอลเอ็มวี เตรียมเปิดรับสมัครพนักงานกว่า 2 พันตำแหน่ง

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. มีมติให้ใช้นโยบายตั้งบริษัทลูกสองแห่งเพื่อเลิกจ้างบริษัทภายนอก (Outsource)โดยจะไม่ต่อสัญญาจ้างที่จะหมดอายุ หลังจากที่ผ่านมาคู่สัญญาหลายรายบกพร่องในการดำเนินงานจนส่งผลกระทบต่อการบริหารท่าอากาศยานในภาพรวมของ ทอท. อาทิ ปัญหาเจ้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) หยุดงานประท้วงเพื่อขอขึ้นค่าแรง ปัญหาการขับสะพานเทียบไปชนเครื่องบินเสียหาย ตลอดจนปัญหาด้านสัมภาระผู้โดยสารชำรุดหรือสูญหาย อย่างไรก็ตาม ถ้าคู่ค้ารายใดทำผิดเงื่อนไขก่อนสัญญาหมดอายุ ทอท. ก็พร้อมยกเลิกสัญญาและให้บริษัทลูกเข้าไปดำเนินการแทนทันที ซึ่งปัจจุบัน ทอท. มีคู่สัญญาในธุรกิจหลักหลายสิบราย

โดย ทอท. จะจัดตั้งบริษัทลูก 2 แห่งคือ บริษัทด้านการรักษาความปลอดภัย และบริษัทด้านให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น เพื่อเข้าไปดำเนินการธุรกิจหลักที่อยู่ในเขตการบิน (Airside) แทน ทั้งธุรกิจการขับสะพานเทียบเครื่องบิน การรักษาความปลอดภัย และการขนส่งสัมภาระ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องสัดส่วนผู้ถือหุ้นและสามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ในเดือน ก.ค. นี้ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการระดมทุนและจัดตั้งบอร์ด คาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ในปี 2561

เบื้องต้นจะเริ่มจากธุรกิจรักษาความปลอดภัยก่อน เพราะสัญญาจ้างรักษาความปลอดภัยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต และเขตปลอดอากร (Free Zone) จะหมดอายุพร้อมในปีงบประมาณ 2561 หรือในเดือน ก.ย. ปี 2562 อย่างไรก็ตามบริษัทลูกจะเน้นที่ต้นทุนเท่าเดิมแต่เพิ่มเติมคุณภาพบริการจากนั้นเมื่อกิจการแข็งแรงแล้วจะขยายธุรกิจเข้าไปรับจ้างดำเนินงานด้านท่าอากาศยานต่อไปในประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวี โดยตอนนี้ได้จ้างบริษัท บอสตัน คอนซัลติ้ง ให้ศึกษาศักยภาพ คาดว่าจะสรุปได้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า

นายนิตินัย กล่าวต่อว่า บริษัทลูกด้านรักษาความปลอดภัยนั้นต้องการจ้างบุคลากรด้านความปลอดภัยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกว่า 1,000 คน ถ้าหากรวมทั้งหมดอาจสูงถึง 2,000 คน ส่วนด้านธุรกิจการขนถ่ายสัมภาระที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ปัจจุบันมีสายการบินไทยและบริษัท บางกอกไฟลท์เซอร์วิส (BFS) เป็นผู้ดำเนินการ และ ทอท. ไม่มีเป้าหมายที่จะยกเลิกสัญญาเพื่อเข้าไปดำเนินการเองแต่อย่างใด เพียงแต่ จะไปดำเนินการเป็นรายที่ 3 เมื่อการจราจรหนาแน่นถึงระดับที่เงื่อนไขกำหนดไว้

“ต้องรอว่าสัญญาต่างๆ จะหมดอายุเมื่อไหร่ หรือถ้าไม่หมดอายุ เราก็ส่งหนังสือไปเตือน Outsource ว่าถ้าทำผิด เราก็พร้อมจะเลิกสัญญาเพราะว่าผิดกันเยอะเหลือเกิน ใครเป็นเด็กไม่ดีก็เตรียมตัวว่าในเดือน ก.ค. นี้ บริษัทลูกของ ทอท. จะไปทำเอง ส่วน Outsource ที่ดีก็จะอยู่จนสัญญาหมดอายุ แต่สุดท้าย ทอท. ก็จะเข้าไปทำธุรกิจหลักเองทั้งหมด”นายนิตินัยกล่าว