น้ำมันดันเงินเฟ้อพุ่ง0.38%

เงินเฟ้อ เม.ย.พุ่ง 0.38% เหตุน้ำมันราคาขึ้น 4 เดือนโตแล้ว 1.03% ส่วนหมวดอาหารติดลบรอบ 15 ปี

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าและโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน เม.ย. 2560 เท่ากับ 100.49 สูงขึ้น 0.38% เทียบกับ เม.ย. 2559 ซึ่งเป็นการสูงขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 13 ติดต่อกันนับตั้งแต่ เม.ย. 2559 ที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.07% และสูงขึ้น 0.16% เทียบกับ มี.ค. 2560 ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) 2560 สูงขึ้นแล้ว 1.03% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น 0.38% เป็นผลจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 0.73% สินค้าสำคัญที่ราคาเพิ่มขึ้น คือ น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่ม 12.42% ส่วนดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.26% ซึ่งเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 15 ปีนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2545 ที่ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ลดลง 0.3% สาเหตุที่ดัชนีหมวดดังกล่าวติดลบเนื่องจากราคาผักและผลไม้ในปีที่ผ่านมามีราคาสูงขึ้นมาจากผลกระทบของภัยแล้ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกเป็นรายการสินค้าที่คำนวณเงินเฟ้อ 422 รายการพบว่า สินค้ามีราคาสูงขึ้น 124 รายการ คิดเป็นสัดส่วน 42.75% ของน้ำหนักรวม เช่น อาหารโทรสั่ง (เดลิเวอรี่) เพิ่ม 26.03% ก๋วยเตี๋ยว เพิ่ม 0.07% อาหารตามสั่ง เพิ่ม 0.15% ค่าทัศนาจรต่างประเทศ (ทัวร์ต่างประเทศ) เพิ่ม 2.83% ส่วนสินค้าราคาไม่เปลี่ยนแปลง 199 รายการ คิดเป็นสัดส่วน 43.08% ของน้ำหนักรวม และสินค้าราคาลดลง 99 รายการ คิดเป็นสัดส่วน 13.45% ของน้ำหนักรวม

น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า ยังคงคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2560 อยู่ระหว่าง 1.5-2.2% ภายใต้สมมติฐานการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย 3-4% ราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบอยู่ที่ 50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 35.5-37.5 บาท/เหรียญสหรัฐ

“แนวโน้มเงินเฟ้อน่าจะสอดคล้องกับการขยายตัวเศรษฐกิจไทย และเมื่อมาตรการรถยนต์คันแรกทยอยผ่อนชำระหมดลง จะส่งผลให้ประชาชนมีเงินมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่วนการปรับขึ้นค่ากระแสไฟฟ้า (เอฟที) มีผลกระทบต่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแค่ 0.05% เท่านั้น”น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว