posttoday

กรมพัฒน์ฯ จับตา บจ.เวลท์เอเวอร์ หลังลอยแพทัวร์ญี่ปุ่น

12 เมษายน 2560

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับตา บจ.เวลท์เอเวอร์ ใกล้ชิด หลัง นักท่องเที่ยวชาวไทยถูกลอยแพกลางสุวรรณภูมิ พบจดทะเบียนนิติบุคคลถูกต้อง แต่ไม่มีวัตถุประสงค์ท่องเที่ยวหรือขายตรง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับตา บจ.เวลท์เอเวอร์ ใกล้ชิด หลัง นักท่องเที่ยวชาวไทยถูกลอยแพกลางสุวรรณภูมิ พบจดทะเบียนนิติบุคคลถูกต้อง แต่ไม่มีวัตถุประสงค์ท่องเที่ยวหรือขายตรง

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวว่านักท่องเที่ยวชาวไทยถูกบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด ลอยแพกลางสนามบินสุวรรณภูมิจนไม่สามารถเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นได้นั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเป็นหน่วยงานรับจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลได้เร่งดำเนินการตรวจสอบสถานะบริษัทฯ ดังกล่าว

เบื้องต้นพบว่า บริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด ได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมาย จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2560 ทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาท (แบ่งออกเป็น 20,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท) กรรมการมี 1 คน คือ นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ สำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 88/6 หมู่ที่ 9 ตำบลหนองยาว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ มีวัตถุประสงค์การจัดตั้งจำนวน 24 ข้อ โดย 22 ข้อ (ข้อ 1 - 22) เป็นวัตถุประสงค์ทั่วไป ส่วนอีก 2 ข้อ (ข้อ 23 - 24) เป็นวัตถุประสงค์หลัก คือ ข้อ 23 ประกอบกิจการผลิตและจำหน่าย นำเข้า - ส่งออก น้ำดื่ม ชา กาแฟ น้ำแร่ และเครื่องดื่มทุกชนิด  และ ข้อ 24 ประกอบกิจการผลิตและจำหน่าย นำเข้า - ส่งออก กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ทุกประเภท

“จะเห็นได้ว่า บริษัทฯ ดังกล่าว ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือธุรกิจขายตรง/ธุรกิจตลาดแบบตรงแต่อย่างใด ซึ่งการประกอบธุรกิจนำเที่ยว/ท่องเที่ยว ต้องดำเนินการขออนุญาตประกอบธุรกิจจากกรมการท่องเที่ยวก่อน ถึงจะจดทะเบียนเพิ่มวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจนำเที่ยว/ท่องเที่ยวได้ และการประกอบธุรกิจขายตรง/ธุรกิจตลาดแบบตรง ต้องดำเนินการขออนุญาตประกอบธุรกิจจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ก่อน ถึงจะจดทะเบียนเพิ่มวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจขายตรง/ธุรกิจตลาดแบบตรงได้ ในกรณีที่บริษัทฯ ประกอบกิจการนอกวัตถุประสงค์ที่ได้จดไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหากเกิดการร้องทุกข์กล่าวโทษเกิดขึ้น บริษัทหรือกรรมการต้องเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง”

ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะดำเนินการเฝ้าระวังและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวต่อไป พร้อมทั่งขอฝากเตือนประชาชนว่าก่อนที่จะทำธุรกิจ หรือซื้อสินค้า/บริการ ควรตรวจสอบสถานะของนิติบุคคลให้ละเอียดก่อนร่วมลงทุนหรือซื้อสินค้า/บริการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคตโดยสามารถตรวจสอบสถานะนิติบุคคลเบื้องต้นได้ที่แอพพลิเคชั่นของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า DBD e-Service โดยไม่มีค่าใช้จ่าย