posttoday

จับตาส่งออกลุ้นขยายตัวดีเศรษฐกิจฟื้น

22 มีนาคม 2560

จับตาแถลงตัวเลขส่งออก ก.พ.วันนี้ คาดแนวโน้มเป็นบวกจากเศรษฐกิจโลกดีขึ้น

จับตาแถลงตัวเลขส่งออก ก.พ.วันนี้ คาดแนวโน้มเป็นบวกจากเศรษฐกิจโลกดีขึ้น

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 มี.ค. สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) จะแถลงตัวเลขการส่งออกสินค้าไทยประจำเดือน ก.พ. 2560 ซึ่งมีแนวโน้มเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากปัจจัยปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น และราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับเพิ่มเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน รวมทั้งราคาสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา ปรับราคาเพิ่มขึ้น

ด้าน นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกในเดือน ก.พ. 2560 คาดว่าจะขยายตัวเป็นบวกจากปัจจัยหนุนในเรื่องของเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวแม้ว่าการส่งออกในปีที่ผ่านมาจะขยายตัวเป็นบวกในอัตราต่ำ 0.45% แต่ประเทศไทยติดอันดับที่ 8 ประเทศของโลกที่มีการส่งออกเป็นบวก ขณะที่หลายประเทศมีการส่งออกติดลบ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าภาพรวมการส่งออกของไทยทั้งปี 2560 จะขยายตัวตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ สอดคล้องกับหลายหน่วยงานที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัวเป็นบวก โดยรัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกใน ปีนี้จะขยายตัวถึง 5%

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกในเดือน ก.พ. 2560 คาดว่าจะติดลบประมาณ 3-4% เมื่อเทียบกับ เดือนเดียวกันปีที่ผ่านมา เนื่องจากการส่งออกทองคำในเดือน ก.พ. 2559 ขยายตัวสูงถึง 1,051% เทียบกับปี 2558 โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นการขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมีผล จากมูลค่าการส่งออกยุทโธปกรณ์ เกี่ยวกับการซ้อมรบมูลค่า 683 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้การส่งออกเดือน ก.พ. 2560 ขยายตัวต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. 2559

"แม้ว่าการส่งออกจะมีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าการส่งออกเดือน ก.พ. 2560 จะยังคงติดลบ เพราะหากเทียบการ ส่งออก ก.พ. 2559 การส่งออกทองคำไม่น่าจะเท่ากับ ก.พ. 2559

รวมทั้งการส่งออกยุทโธปกรณ์ที่หายไป เพราะเป็นการส่งออกกรณีพิเศษ ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวล เพราะการส่งออก ก.พ. 2560 จะเป็นการขยายตัวปกติ แต่ที่อาจติดลบเนื่องจากการส่งออกในสินค้าพิเศษเหล่านี้" นายวัลลภ กล่าว

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า ได้เชิญผู้ประกอบการเอกชน รายใหญ่ 24 รายมารับฟังความคิดเห็นแนวทางการพัฒนาตลาดผลิตภัณฑ์โอท็อป และปัญหาของสินค้าจากมุมมองของผู้ประกอบการและภาคเอกชน เพื่อนำความเห็นเหล่านี้มาพัฒนาให้มีรูปแบบเป็นเชิงพาณิชย์มากขึ้น