ใช้อำนาจม.44ผลักดันกฎหมายแก้ล็อกทำธุรกิจ

นายกฯพร้อมใช้ ม.44 ปลดล็อกคลอดกฎหมายสำคัญภายในเดือน พ.ค.นี้ ดันอันดับยากง่ายการทำธุรกิจ

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ (มินิคาบิเนต) ได้รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อมสำหรับการประกอบธุรกิจในประเทศไทยของธนาคารโลก

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พร้อมใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ผลักดันกฎหมาย 3 ฉบับ ให้มีผลบังคับใช้ภายในเดือน พ.ค.นี้ เพื่อให้ธนาคารโลกใช้เป็นข้อมูลสำหรับการประเมินความยาก-ง่ายในการทำธุรกิจในประเทศไทย สำหรับกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน และร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ซึ่งขณะนี้บางฉบับผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว หากดำเนินการตามขั้นตอนปกติอาจใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน ไม่ทันกับการเข้ามาเก็บข้อมูลของธนาคารโลก จึงต้องเสนอให้ใช้ตามมาตรา 44

"ก่อนหน้านี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้เร่งเรื่องดังกล่าว เพื่อให้การจัดอันดับของไทยในปีนี้ขึ้นมาอยู่มีอันดับที่มีเลข 30 ให้ได้ จากที่ปี 2559 ไทยถูกจัดอันดับอยู่ที่ 46 จาก 190 ประเทศ" นายทศพร กล่าว

ด้าน นายสมคิด กล่าวว่า ล่าสุดมีกฎหมายสำคัญประมาณ 3-4 ฉบับ ที่ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วจะต้องเร่งให้มีผลบังคับภายในเดือน พ.ค. 2560 ขณะที่กฎหมายอื่นๆ ที่ยังค้างอยู่จะเร่งผลักดันออกมาให้เร็วที่สุดด้วย