posttoday

รฟท.ยันได้ข้อสรุปทีโออาร์รถไฟทางคู่5เส้นภายใน 8 มี.ค.

06 มีนาคม 2560

รฟท.ยันได้ข้อสรุปทีโออาร์ทางคู่ 5 เส้นภายใน 8 มี.ค. พร้อมส่งต่อซูเปอร์บอร์ดเคาะตัดสินอนาคต

รฟท.ยันได้ข้อสรุปทีโออาร์ทางคู่ 5 เส้นภายใน 8 มี.ค. พร้อมส่งต่อซูเปอร์บอร์ดเคาะตัดสินอนาคต

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการได้เสนอ รายละเอียดเงื่อนไขการประกวดราคา(ทีโออาร์)รถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นทางไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทางคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือซูเปอร์บอร์ด ได้เสนอให้นำทีโออาร์กลับมาดูรายละเอียดให้มากขึ้นโดยเฉพาะการดูว่าจะมีทางเลือกอะไรอีกบ้างเพื่อให้รอบคอบมากขึ้น ดังนั้นในวันที่ 8 มี.ค.นี้ คณะกรรมการ รฟท.จะจัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้งโดยจะนำรายละเอียดที่ รฟท.พิจารณาไว้แล้ว และข้อแนะนำของทางซูเปอร์บอร์ดมาพิจารณาร่วมกัน

"ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะแบ่งการประกวดราคาออกเป็นช่วงหรือแค่ปรับแก้ทีโออาร์ เพราะแต่ละคนก็มีความเห็นที่แตกต่างกัน บางคนบอกว่าถ้าแบ่งเป็นช่วงก็ทำให้โครงการต้องล่าช้าออกไปอีก เป็นต้น หรือบางคนก็บอกว่า หากต้องการความโปร่งใสก็ต้องแบ่งเป็นช่วง เป็นต้น ก็ต้องนำข้อมูลมาปรับให้สมดุลกันมากขึ้น"นายอานนท์ กล่าว

ขณะที่นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ประธานคณะกรรมการ รฟท. (บอร์ด) กล่าวว่า ในการประชุมครั้งหน้าเพื่อพิจารณาร่างทีโออาร์นั้น เบื้องต้นต้องนำทีโออาร์มาพิจารณาอีกครั้งโดยเพิ่มเติมข้อแนะนำของซูเปอร์บอร์ด ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานว่าจะต้องแยกเป็นช่วงหรือไม่อย่างไร คงต้องรอให้ฝ่ายปฏิบัติการเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาก่อนเพื่อเร่งหาข้อสรุปต่อไป

"ที่ผ่านมาก็พิจารณาเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงคิดว่าในวันที่ 8 มี.ค.นี้จะสรุปได้ ซึ่งรายละเอียดต่างๆก็มีอยู่แล้ว ก็เป็นการพิจารณาเพิ่มเติมว่าหากปรับทีโออาร์จะมีผลกระทบอะไรบ้าง คงต้องรอดูรายละเอียดในที่ประชุมก่อน"นายวรวิทย์ กล่าว

ทั้งนี้ โครงการรถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.เส้นทาง ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 19,000 ล้านบาท 2.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. วงเงิน 23,000 ล้านบาท 3.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 132 กม. วงเงิน 28,000 ล้านบาท 4.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. วงเงิน 9,800 ล้านบาท และ5.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 16,000 ล้านบาท