สั่งคมนาคมปรับแผนรื้อรถเมล์

บิ๊กตู่เบรกกระทรวงคมนาคมขอใช้ ม.44 รื้อสัมปทานรถร่วม หวั่นกระทบประชาชน สั่งให้ปรับแผนเสนอมาใหม่

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ได้ออกคำสั่งมาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาและปฏิรูปการเดินรถโดยสารประจำทางของกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ตามที่กระทรวงคมนาคมได้ร้องขอ เพื่อให้ยกเลิกใบอนุญาตเดินรถเดิมของเอกชนทั้งหมด และให้มีการจัดสรรการอนุญาตใหม่

ทั้งนี้ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ไม่เชื่อมั่นว่ากระทรวงคมนาคมจะแก้ไขปัญหาได้ เพราะยังไม่มีแผนเป็น รูปธรรมมานำเสนอ รวมถึงหากต้องยกเลิกทั้งหมดอาจเกิดความสับสนต่อประชาชน เพราะต้องเปลี่ยนหมายเลขรถประจำทาง นอกจากนี้ยังต้องเพิ่มจำนวนสายเดินรถจากเดิมที่มี 202 สาย เป็น 270 สาย ถึงจะเพียงพอกับการบริการ และรถทั้งหมดจะต้องไม่วิ่งทับเส้นทางกันด้วย อีกทั้งตามแผนที่กระทรวงคมนาคมเสนอต้องใช้เวลาถึง 2 ปี เพื่อจัดระเบียบใหม่ทั้งหมด

"พล.อ.ประยุทธ์ ห่วงว่ารถเมล์บางสายเคยบริการเส้นทางเดิม ก็ได้กำไรดี แต่ถูกเปลี่ยนให้บริการเส้นทางใหม่ กำไรที่เคยได้ก็ต้องหายไป ผู้ประกอบการจะยอมหรือไม่ และประชาชนจะสับสนขนาดไหน จากเดิมที่เคยขึ้นรถเมล์สายเดิม แต่ต้องเปลี่ยนสาย ต้องมาทำความเข้าใจใหม่ อีกทั้งต้องใช้เวลาถึง 2 ปีกว่าจะจัดการทั้งระบบให้แล้วเสร็จ" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ปัญหารถประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถร่วมบริการบางสายยังวิ่งทับเส้นทางกันอยู่คาราคาซังมานานหลายปี บางคันขับรถอันตราย รวมถึงศักยภาพของ ขสมก.สามารถให้บริการรถได้เพียงแค่ 2,600 คัน แต่ความต้องการใช้บริการต้องมีรถ 6,000 คัน ถึงจะเพียงพอ จึงต้องหารถร่วมบริการ แต่ก็เกิดปัญหาวิ่งทับเส้นทางตามมา