รฟท.จ่อเลิกรถไฟโดยสาร18ขบวน-ปรับตารางใหม่

รฟท.จ่อเลิกเดินรถไฟโดยสาร 18 ขบวน ปรับตารางใหม่หวังเพิ่มอัตราบรรทุกผู้โดยสารแตะร้อยละ 80 รับมียกเลิกรถไฟฟรีบางขบวน

วันที่ 15 กพ. แหล่งข่าวการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.อยู่ระหว่างจัดทำแผนยกเลิกขบวนรถโดยสารพร้อมปรับตารางเดินรถใหม่ เพื่อรองรับแผนการพัฒนาขององค์กร โดยระยะแรกมีแผนจะยกเลิกรถโดยสาร 18 ขบวน จากทั้งหมด 181 ขบวน ประกอบด้วยรถไฟสายใต้ 4 ขบวน, รถไฟสายเหนือ 4 ขบวน, รถไฟสายชานเมือง 10 ขบวน และรถด่วนสายตะวันออกเฉียงเหนืออีกจำนวน 2 ขบวน รวมถึงปรับเปลี่ยนเวลามาเดินรถเฉพาะวันศุกร์ วันเสาร์และวันอาทิตย์ จากเดิมที่เปิดเดินรถทุกวัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้คุณภาพและบริการของรถไฟดีขึ้น ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเอื้อให้รฟท. สามารถนำรถเก่าออกมาซ่อมและนำรถที่มีสภาพดีไปทดแทน เพื่อยกระดับบริการ ป้องกันรถเสียระหว่างทาง ห้องน้ำชำรุด และตรงเวลามากขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตามคงไม่ทำให้รายได้จากค่าโดยสารหรือจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากนัก  นอกจากนี้จะปรับตารางเดินรถโดยสารขบวนที่เหลือให้ดีขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการพิจารณายกเลิกเดินรถจะเน้นพิจารณาขบวนที่ซ้ำซ้อนหรือมีอัตราการบรรทุกต่ำ (Load factor) กว่า 50%  เช่น รถไฟชานเมืองที่มีผู้โดยสารน้อยในช่วงกลางวัน นอกจากนี้ผู้โดยสารบางส่วนก็เปลี่ยนไปใช้รถไฟโดยสารรุ่นใหม่ 115 คัน โดยเฉพาะสายอีสานที่นิยมรถไฟโดยสารรุ่นใหม่มากขึ้นจนทำให้คนใช้น้อยลง ทั้งนี้จะยกเลิกรถไฟฟรีบางขบวนด้วย แต่จะพิจารณาให้รอบคอบว่าขบวนดังกล่าวอยู่ในเส้นทางที่จำเป็นและไม่มีขนส่งประเภทอื่นก็จะเปิดให้บริการต่อไป

“ตามแผนจะมีการปรับตารางเดินรถใหม่ทั้งหมด มีทั้งปรับเวลาให้ช้าลงครึ่งชั่วโมง บางขบวนปรับให้เร็วขึ้นถึง 1 ชั่วโมง แต่ภาพรวมจะทำให้รถไฟทั่วประเทศเร็วขึ้นครึ่งชั่วโมง ส่วนขบวนรถที่มีผู้โดยสาร 60-70% ก็จะเพิ่มเป็น 80%” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า รฟท.จะเสนอแผนดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) โดยเร็วที่สุดแต่อาจจะไม่ทันการประชุมในวันที่ 17 ก.พ. นี้ ส่งผลให้การปรับตารางเดินรถใหม่ล่าช้ากว่ากรอบเวลาในเดือน มี.ค. เล็กน้อยส่วนด้านรถโดยสารขบวนใหม่ 115 คัน ซึ่งเปิดใช้ในเมื่อปลายปี 2559 และเดิมจะปรับขึ้นค่าโดยสารในเดือน มี.ค. นั้น เบื้องต้นคาดว่าคงใช้ค่าโดยสารอัตราเดิมไปถึงเดือน พ.ค. เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชน ส่วนอัตราการปรับขึ้นค่าโดยสารคงไม่เกิน 200 บาทตามกรอบเดิม