posttoday

"สรรเสริญ"ปัดรัฐถังแตก-ขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินตามกลไกตลาด

04 กุมภาพันธ์ 2560

โฆษกรัฐบาลยืนยันรัฐไม่ได้ถังแตก ฐานะการคลังยังเข้มแข็ง ย้ำขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินเป็นไปตามกลไกตลาดและความเป็นธรรมในระบบภาษี

โฆษกรัฐบาลยืนยันรัฐไม่ได้ถังแตก ฐานะการคลังยังเข้มแข็ง ย้ำขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินเป็นไปตามกลไกตลาดและความเป็นธรรมในระบบภาษี

วันที่ 4 กพ. พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินภายในประเทศในทำนองว่า รัฐถังแตกจึงต้องไปรีดภาษีสูงขึ้น ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะจากข้อมูลฐานะการคลังของรัฐบาล ณ เดือน ธ.ค.2559 ยังมีเงินคงคลัง ซึ่งเป็นตัวเลขที่หักลบรายได้และรายจ่ายแล้วคงเหลือทั้งสิ้น 74,907 ล้านบาท

“การที่มีเงินคงคลังเหลือเป็นจำนวนดังกล่าว เพราะช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2560 (ต.ค.-ธ.ค.2559) รัฐบาลได้พยายามอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเบิกจ่ายงบประมาณที่สูงกว่าปีก่อนถึง 78,183 ล้านบาทและการจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการถึง 27,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าฐานะการคลังของรัฐบาลยังอยู่ในระดับที่เข้มแข็งเพียงพอ”

พล.ท. สรรเสริญ กล่าวต่อว่า เหตุผลในการปรับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน คือ การสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีและเป็นไปตามกลไกตลาด เพราะการขนส่งทางถนน ผู้ประกอบการหรือผู้ใช้รถต้องเสียภาษีน้ำมันเบนซินในอัตรา 5-6 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ขณะที่การขนส่งทางอากาศ ผู้ประกอบการเสียภาษีน้ำมันเครื่องบินเพียง 20 สตางค์ต่อลิตร ติดต่อกันมาถึง 24 ปีแล้ว รัฐจึงได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4 บาทต่อลิตร เมื่อ 25 ม.ค.2560

ทั้งนี้ จากการคำนวณต้นทุนของกรมสรรพสามิต พบว่าการปรับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินครั้งนี้จะทำให้ค่าตั๋วเครื่องบินปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 50 บาท ไม่น่าจะถึง 150 บาทต่อเที่ยว เพราะเครื่องบินขนาดกลางที่มีที่นั่ง 200-300 ที่นั่ง จะใช้น้ำมันประมาณ 2,500 ลิตรต่อชม. หรือมีภาระภาษีเพิ่มขึ้น 9,500-10,000 บาท หากนำไปเฉลี่ยกับจำนวนที่นั่งบนเครื่องบินแล้ว กรมสรรพากรสามิตเห็นว่าราคาควรจะเพิ่มขึ้นเพียง 45-50 บาทเท่านั้น

“การปรับขึ้นหรือลงของภาษีน้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และอื่นๆ ล้วนเป็นไปตามหลักอุปสงค์และอุปทานของโลก ส่วนรายได้ที่เกิดจากการเก็บภาษีนั้น รัฐจะคืนกลับแก่ประชาชนในหลากหลายรูปแบบ เช่น การซ่อมแซมถนน สะพาน ระบบจราจร ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งการปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ลานบิน ระบบความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม สำหรับอุตสาหกรรมการบินเช่นเดียวกัน ดังนั้น การกล่าวอ้างว่าการใช้บริการเครื่องบิน ไม่มีค่าใช้จ่ายหรือการคืนกลับให้แก่สังคมนั้น จึงฟังไม่ขึ้น”

ข่าวล่าสุด

ศูนย์ฯ สิริกิติ์ Smart City ต้นแบบ! เปลี่ยนขยะเป็น RDF สู่ Net Zero 2050