posttoday

ตีตราสินค้าจีไอเพิ่ม4รายการ

29 ธันวาคม 2559

"พาณิชย์" ขึ้นทะเบียนจีไอสินค้าอีก 4 ชนิดจาก 4 จังหวัด ส่งผลให้ล่าสุดไทยมีสินค้าจีไอแล้ว 53 จังหวัด

"พาณิชย์" ขึ้นทะเบียนจีไอสินค้าอีก 4 ชนิดจาก 4 จังหวัด ส่งผลให้ล่าสุดไทยมีสินค้าจีไอแล้ว 53 จังหวัด

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตได้เฉพาะในท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่งเท่านั้น เพิ่มเติมอีก 4 รายการ คือ ลองกองตันหยงมัส จ.นราธิวาส ทุเรียนปราจีน จ.ปราจีนบุรี สับปะรดบ้านคา จ.ราชบุรี และลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน จ.ลำพูน ส่งผลให้ไทยมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าจีไอแล้ว 75 สินค้า จาก 53 จังหวัด

ทั้งนี้ กรมยังอยู่ระหว่างพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนจีไอจาก 15 จังหวัด ทำให้ล่าสุดยังเหลืออีก 9 จังหวัดที่ยังไม่มีการยื่นคำขอขึ้นทะเบียน ซึ่งกรมจะส่งเสริมให้มีสินค้าจีไอครบ 77 จังหวัด

อย่างไรก็ตาม การทำงานในปี 2560  กรมมีแผนจะลงพื้นที่ 6 จังหวัดที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน หรือยื่นคำขอขึ้นทะเบียนจีไอ ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี ระนอง สตูล สมุทรสาคร สิงห์บุรี และกำแพงเพชร ส่วนกรุงเทพฯ และสระแก้ว อยู่ระหว่างการยื่นคำขอในเร็วๆ นี้ โดยสินค้าจีไอที่ขึ้นทะเบียนแล้ว กรมจะส่งเสริมให้ผู้ผลิตพัฒนาคุณภาพของสินค้าส่งเสริมการตลาดและสร้างการรับรู้คุณภาพ ชื่อเสียงของสินค้าทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อให้สินค้าจำหน่ายได้ในราคาสูงขึ้น สร้างรายได้ให้กับชุมชนและท้องถิ่น

สำหรับลักษณะเด่นของสินค้าจีไอทั้ง 4 รายการนั้น ลองกองตันหยงมัส จ.นราธิวาส เป็นลองกองพันธุ์พื้นเมือง ปลูกใน จ.นราธิวาส ผลอ่อน มีเปลือกสีเขียว เมื่อผลสุกผิวเปลือกจะเป็นสีเหลือง ไม่มียาง ล่อนออกจากเนื้อได้ง่าย รูปทรงเหมือนหยดน้ำ เนื้อใสหอมหวาน มีเมล็ดน้อย หรือไม่มีเลย ส่วนทุเรียนปราจีน จ.ปราจีนบุรี เป็นการนำพันธุ์ก้านยาว หมอนทอง ชะนี กระดุมทอง และพันธุ์พื้นเมืองอื่นๆ เช่น กบชายน้ำ ชมพูศรี กำปั่น มาปลูกในพื้นที่ อ.เมือง กบินทร์บุรี ประจันตคาม ศรีมหาโพธิ และนาดี จ.ปราจีนบุรี ทำให้ได้ทุเรียนเนื้อสีเหลือง แห้ง หนา เส้นใยน้อย หวานมัน เปลือกผลบาง ผิวเปลือกสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม หนามถี่

ขณะที่สับปะรดบ้านคา จ.ราชบุรี เป็นการนำสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย ที่รสหวานฉ่ำ ไม่กัดลิ้น มีกลิ่นหอม เนื้อละเอียด หนานิ่ม มีตาผลค่อนข้างตื้น มาปลูกใน 4 อำเภอ ได้แก่ จอมบึง ปากท่อ สวนผึ้ง และบ้านคา จ.ราชบุรี  ทำให้ได้สับปะรดผลใหญ่ เป็นทรงกรวย น้ำหนักผล 1-3 กิโลกรัม และลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน จ.ลำพูน เป็นลำไยอบแห้งที่มีสีเหลืองทอง เนื้อหนา แห้งสนิท ไม่ติดกัน ไม่เหนียวติดมือ หวาน และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งเป็นลำไยที่ผ่านผ่านกรรมวิธีการอบแห้งในเขตพื้นที่ จ.ลำพูน สามารถเก็บได้นานโดยที่กลิ่นและรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทยเพราะมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง