ปราบสินค้าปลอม ขายเกลื่อนตลาด
"พาณิชย์" ใช้กฎหมายเครื่องหมายการค้าจัดการสินค้าปลอมหีบห่อ หลังวางขายเกลื่อนตลาดนัด
"พาณิชย์" ใช้กฎหมายเครื่องหมายการค้าจัดการสินค้าปลอมหีบห่อ หลังวางขายเกลื่อนตลาดนัด
นายทศพล ทังสุบุตร รักษาการอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมได้มีการตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าปลอมที่มีการนำหีบห่อ บรรจุภัณฑ์ หรือภาชนะที่แสดงเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้มาใช้บรรจุสินค้าที่ทำเอง เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้ายี่ห้อจริง ซึ่งพบการจำหน่ายสินค้าปลอมหีบห่อตามตลาดนัดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และยังพบมากในตลาดที่มีพื้นที่ติดชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา โดยต้องเร่งปราบปรามเพราะเป็นสินค้าที่ส่งผล กระทบต่อชีวิตประชาชน
ทั้งนี้ สินค้าที่มีการตรวจสอบพบการปลอมหีบห่อจำนวนมาก เช่น สุราปลอม มีการนำเอาขวดของแท้ ทั้งแบล็กเลเบิล เรดเลเบิล แล้วเอาเหล้าราคาถูกมาใส่แทน แต่บางรายพบว่ามีการเอาแอลกอฮอล์มาผสม ซึ่งหากดื่มเข้าไปอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย ไวน์ปลอม มีการปลอมฉลาก โดยใช้ไวน์ราคาถูกมาติดฉลากใหม่ หรือนำไวน์ยี่ห้อ Bin 2 มาติดฉลากใหม่เป็น Bin 389 ซึ่งมีราคาแพงกว่า น้ำมันเครื่อง เอาน้ำมันที่ใช้แล้วหรือน้ำมันปลอมมาใส่ แชมพู ยาสระผม มีการนำเอาบรรจุภัณฑ์ของแท้แล้วมาบรรจุใหม่ โดยใช้น้ำยาที่ทำขึ้นเองหรือผสมเองมาใส่ น้ำปลา ซีอิ๊ว เครื่องปรุงรส นำน้ำเกลือมาผสมสี แล้วมาบรรจุใส่ในขวดจริง เป็นต้น
"ประชาชนที่ซื้อสินค้าตามตลาดนัดหรือตลาดทั่วไป ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าถ้าสินค้าขายถูกกว่าปกติมากๆ อาจจะไม่ใช่ของจริง เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะขายถูกได้แบบนั้น และให้ดูด้วยว่าบรรจุภัณฑ์เก่าหรือใหม่ ถ้าเก่า แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ขอให้เลี่ยง และหากพบว่าเป็นสินค้าที่ขวดแท้ กล่องแท้ แต่ข้างในปลอม ให้รีบแจ้งมายังกรมที่สายด่วน 1368 เพราะหากซื้อไปใช้แล้วอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตประชาชน ซึ่งกรมก็จะร่วมกันตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง" นายทศพล กล่าว
สำหรับการปลอมหีบห่อหรือบรรจุภัณฑ์ จะมีโทษความผิดตาม พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2559 ที่กรมได้ปรับปรุงใหม่ โดยมีโทษปรับ 4 แสนบาท จำคุก 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการซื้อหรือใช้สินค้าปลอม และยังได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าที่เจอสินค้าปลอมในลักษณะนี้ ให้ช่วยตรวจสอบและช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งความดำเนินคดีทันทีที่พบเห็น เพราะตั้งแต่เพิ่มบทลงโทษสำหรับสินค้าปลอมที่นำหีบห่อแท้มาบรรจุและได้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. 2559 ยังไม่มีการดำเนินคดีในกรณีนี้เกิดขึ้นเลย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภคไม่ให้ถูกหลอกลวง