posttoday

เวียดนามถล่มข้าวไทย

23 ธันวาคม 2559

เวียดนามนำเข้าข้าวหอมกัมพูชาขายถูกตีตลาดข้าวหอมมะลิไทย หลังราคาห่างกัน 200 เหรียญสหรัฐ/ตัน

เวียดนามนำเข้าข้าวหอมกัมพูชาขายถูกตีตลาดข้าวหอมมะลิไทย หลังราคาห่างกัน 200 เหรียญสหรัฐ/ตัน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ รายงานว่า สำนักงานกังวลว่าผู้ส่งออกข้าวคุณภาพดีของไทยจะได้รับผลกระทบ หลังจากที่เวียดนามได้มีการนำเข้าข้าวเปลือกคุณภาพดีจากกัมพูชา ซึ่งใช้พันธุ์เดียวกับข้าวหอมมะลิไทย มาสีแปรในประเทศเวียดนามและส่งออกในปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกปี และยังมีการนำข้าวคุณภาพดีของกัมพูชาไปผสมกับข้าวขาวธรรมดาของเวียดนาม ทำให้มีกลิ่นหอมเช่นเดียวกัน แล้วนำไปติดตราเป็นข้าวหอมจากเวียดนาม เพื่อนำไปขายตัดราคาข้าวหอมมะลิไทยในตลาดโลก ซึ่งทางสำนักงานจะมีการติดตามความเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป

นอกจากนี้ ยังพบว่าข้าวคุณภาพดีเกรดเดียวกับข้าวหอมมะลิไทยของกัมพูชาเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น และกัมพูชามีการส่งออกข้าวข้าวเกรด หอมมะลิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลกัมพูชามีนโยบายขยายพื้นที่ปลูกข้าวคุณภาพดีเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากไม่ต้องการแข่งขันด้านราคาข้าวขาวทั่วไปในตลาดกับประเทศอื่นๆ และตั้งเป้าที่จะชนะเลิศในการประกวดข้าวคุณภาพดีที่สุดของโลกทุกครั้งที่มีการประกวด ซึ่งเป็นการส่งเสริมตลาดและภาพลักษณ์ข้าวคุณภาพดีของกัมพูชา อาจจะส่งผลกระทบต่อข้าวไทยในอนาคตที่ต้องรักษามาตรฐานให้ได้

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเวียดนามมีการนำข้าวเปลือกจากกัมพูชา ซึ่งเป็นข้าวหอมที่ใช้พันธุ์เดียวกับข้าวหอมมะลิของไทยนำเข้าไปสีแปรเป็นข้าวสารและจำหน่ายในชื่อว่าข้าวดอกมะลิ หรือชื่อภาษาอังกฤษว่าข้าว KDM ซึ่งราคาขายต่ำกว่าข้าวหอมมะลิของไทยประมาณตันละ 200 เหรียญสหรัฐ เช่น ข้าวหอมมะลิไทยส่งออกตันละ 700 เหรียญสหรัฐ ข้าว KDM จะส่งออกตันละ 500 เหรียญสหรัฐ ทำให้ผู้ซื้อหลายประเทศเลือกซื้อข้าว KDM เพราะมีราคาถูกกว่าข้าวหอมมะลิไทยมาก แม้คุณภาพข้าวหอมมะลิของไทยจะดีกว่าก็ตาม โดยประเทศผู้ซื้อข้าวชนิดนี้ เช่น มาเลเซีย เป็นต้น

"ตลาดข้าวหอมมีการแข่งขันรุนแรง ซึ่งปัญหาข้าว KDM ที่เวียดนามนำข้าวเปลือกจากกัมพูชาไปสีแปรและขายเกิดมาหลายปีแล้ว และก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ซื้อจะรู้ว่าข้าว KDM คือข้าวเปลือกพันธุ์หอมมะลิที่ปลูกจากกัมพูชา และถูกส่งมาขาย ซึ่งต้นฤดูกาลก็จะมีการค้าขายกันมาก พอปลายฤดูกาลทางเวียดนามจะนำข้าวชนิดนี้มาผสมก็ข้าวอื่นและขาย คุณภาพก็จะต่ำลงมาตามราคาด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด ทำได้ เพราะการแข่งขันสูง" นาย ชูเกียรติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กรมการค้าต่างประเทศได้ออกประกาศมาตรฐานสินค้าข้าวฉบับใหม่ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลบังคับใช้ โดยกำหนดเกรดข้าวไทยให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ข้าวหอมมะลิไทย กำหนดสัดส่วนข้าว หอมมะลิไม่น้อยกว่า 92% ใช้ชื่อ THAI HOM MALI RICE และเกรดรองลงมาคือข้าวหอมไทย กำหนดสัดส่วนที่ 80% ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า THAI JASMINE RICE และข้าวระดับล่าง ที่เปิดให้ผสมข้าวหอมตามความต้องการของตลาดผู้ซื้อ จะช่วยให้ข้าวไทยแข่งขันทางด้านราคากับเวียดนามได้มากขึ้น เพราะมีข้าวหลายชนิดให้เลือก

ภาพประกอบข่าว

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”