ขสมก.ขีดเส้นยกเลิกสัญญารถเมล์เอ็นจีวี-หลังเบสท์รินยังเงียบ

ขสมก.ขีดเส้นยกเลิกสัญญารถเมล์เอ็นจีวีภายใน 12 ก.พ. 60 หากเอกชนผู้นำเข้ายังไม่ชี้แจงแผนส่งมอบรถ

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปปัญหาการส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีเนื่องจากบริษัทเบสท์รินยังไม่ส่งหนังสือชี้แจงแผนการส่งมอบรถกลับมาที่ ขสมก.ตามที่ได้ตกลงกันไว้ในวันนี้ (19 ธ.ค.) ส่งผลให้หลังจากนี้ขสมก.จะดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการของสัญญาที่ได้ทำร่วมกับเบสท์ริน ซึ่งหากเอกชนไม่สามารถส่งมอบรถได้ภายในวันที่ 29 ธ.ค. จะต้องถูกปรับวันละ 17,000 บาทต่อคันต่อวัน หรือราววันละ 8,313,000 ล้านบาท และทางขสมก.จะส่งหนังสือแจ้งเตือนเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ได้เคยส่งหนังสือแจ้งเตือนไปแล้วก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นในวันที่ 5 มกราคมและวันที่ 12 มกราคมจะส่งหนังสือแจ้งเตือนเป็นครั้งที่สามและสี่ตามลำดับ ถ้าหากยังไม่มีการส่งมอบรถทางขสมก.จะดำเนินการยกเลิกสัญญาทันทีในวันที่ 12 กุมภาพันธ์หรือในอีก 1 เดือนต่อมานับตั้งแต่แจ้งเตือนครั้งที่สี่

อย่างไรก็ตามทางขสมก.พร้อมเจรจากับเบสท์รินเพื่อหาทางออกโดยอาจจะไม่ต้องส่งมอบรถทั้งหมด 489 คันทีเดียวแต่ส่งมอบเป็นล็อตควบคู่ไปกับการจ่ายค่าปรับเพื่อไม่ให้ถึงขั้นบอกเลิกสัญญา อีกทั้งถ้ากรมศุลกากรปล่อยมาก็สามารถรับมอบรถเมล์ได้ถูกต้องตามกฎหมายเพราะถือว่าสินค้าถูกตีทะเบียนมาอย่างถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว เพราะในการทำสัญญา ขสมก.ทำสัญญากับบริษัท เบสท์ริน เพียงรายเดียว ดังนั้นการส่งมอบรถก็จะหารือกับทางบริษัทเพียงรายเดียว ส่วนปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของกรมศุลกากรกับบริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารถเมล์จะต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ข้อยุติ เพราะ ขสมก.ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

"หากเบสท์รินไม่สามารถส่งมอบรถเมล์ดังกล่าวได้ ขสมก.ก็ต้องยกเลิกสัญญาตามวันเวลาที่ระบุไว้ สอดคล้องกับเงินค้ำประกันที่เบสท์รินวางไว้ (330 ล้านบาท) ซึ่งจะถูกหักค่าปรับไปเรื่อยๆหากไม่ส่งมอบรถจนกระทั่งหมดเงินค้ำประกันแล้วทาง ขสมก.ก็สามารถยกเลิกสัญญากับทางบริษัทได้ซึ่งอยู่ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์พอดี" นายสุระชัยกล่าว

นายสุระชัยกล่าวอีกว่า แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่ได้ข้อสรุปแต่ขสมก.จะจัดประชุมระดับผู้บริหารเพื่อหาทางออกให้กับเรื่องดังกล่าวในวันที่ 21 ธ.ค. อย่างไรก็ตามได้เตรียมแผนรองรับไว้หากไม่สามารถส่งมอบรถได้ตามสัญญาคือจะนำรถเมล์รุ่นเก่าออกมาวิ่งแทนใน22เส้นทางที่กำหนดไว้เพื่อบริการประชาชนเป็นระยะเวลา 1 ปี ก่อนจัดทำแผนซื้อรถเมล์ล็อตใหม่ต่อไป

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับรถเมล์ที่อาจนำเข้ามาโดยไม่ถูกต้อง จะมีปัญหาในเรื่องของการรับมอบรถของ ขสมก.หรือไม่ว่า นายสุระชัย กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่มีผู้ไปร้องสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวนั้น ตนไม่ทราบ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของกรมศุลกากรกับบริษัทผู้นำเข้ารถเมล์ โดยในส่วนของ ขสมก.ก็จะต้องปรับแผนการดำเนินงานด้วย หากการส่งมอบล่าช้า โดยจะต้องใช้รถเมล์เดิมไปก่อน หรือหากมีการยกเลิกสัญญาก็จะต้องวางแผนในเรื่องการจัดซื้อใหม่ด้วย