posttoday

ของบจัดรูปที่ดินสปก.3พันไร่

29 สิงหาคม 2559

ชงของบกลางจัดรูปที่ดิน ส.ป.ก.ที่ยึดคืนได้กว่า 3,000 ไร่ ก่อนจัดสรรให้เกษตรกรทำกิน

ชงของบกลางจัดรูปที่ดิน ส.ป.ก.ที่ยึดคืนได้กว่า 3,000 ไร่ ก่อนจัดสรรให้เกษตรกรทำกิน

นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ส.ป.ก.ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงบประมาณเพื่อขอรับจัดสรรงบกลางปี 2559 เพื่อนำมาใช้ในการจัดรูปที่ดิน ส.ป.ก.ที่เรียกคืนมาได้ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 36/2559 เพิ่มเติมจากงบเหลือจ่ายปี 2559 ของ ส.ป.ก.ที่ได้จัดสรรมาจัดรูปที่ดิน ส.ป.ก.แล้วบางส่วน โดยคาดว่าจะมีการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.แปลงที่ยึดได้ให้เกษตรกรในรูปแบบระบำโมเดลที่ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้ภายในปีนี้ รวมเนื้อที่จัดสรรกว่า 3,000 ไร่

“ตอนนี้มีแปลงที่ดิน ส.ป.ก.ที่จะสามารถนำมาจัดให้เกษตรกรได้ในปีนี้ประมาณ 3 แปลง คือ 1.แปลงที่เรียกคืนได้จากนายชูเกียรติ ตั้งพงศ์ปราชญ์ 1,027 ไร่ ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 2.แปลงที่เรียกคืนได้จากนายสุทัศน์ คุณรักษ์พงศ์ จำนวน 2 แปลง รวม 971 ไร่ ที่ ต.ไทรทอง จ.สุราษฎร์ธานี และ 3.แปลงที่เรียกคืนได้จากนางเพียงใจ หาญพาณิชย์ 1,060 ไร่ จ.กาญจนบุรี” นายสรรเสริญ กล่าว

นายสรรเสริญ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ปฏิรูปที่ดินทั้ง 27 จังหวัด เร่งดำเนินการตรวจสอบเอกสารสิทธิภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) ที่ผู้ครอบครองที่ดินของ ส.ป.ก.โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเกิน 500 ไร่ขึ้นไป นำมายื่นคัดค้านการเรียกคืนที่ดินในเขต ส.ป.ก. ในแปลงที่มีการถือครองตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป ซึ่งข้อมูลล่าสุดมีผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.นำเอกสาร ภ.บ.ท.5 มายื่นคัดค้านการเรียกคืนที่ดินทั้งสิ้น 2.07 แสนไร่

“เนื่องจากมีผู้ครอบครองที่ดินในเขต ส.ป.ก.นำ ภ.บ.ท.5 มายื่นคัดค้านเป็นจำนวนมาก จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกจังหวัดเร่งดำเนินการ ซึ่งคาดว่าที่ดิน ส.ป.ก.ที่นำ ภ.บ.ท.5 มาร้องคัดค้าน น่าจะเรียกคืนได้ทั้งหมด” นายสรรเสริญ ระบุ

สำหรับความคืบหน้าการเรียกคืนที่ดิน ส.ป.ก. จำนวน 431 แปลงในพื้นที่ 27 จังหวัดเป้าหมาย เนื้อที่รวม 4.41 แสนไร่ พบว่ามีที่แปลงที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 28 แปลง ที่ไม่มีการยื่นคัดค้าน คิดเป็นเนื้อที่ 2.8 หมื่นไร่ ส่วนแปลงที่ดินที่คัดค้านแต่ไม่เต็มทั้งแปลงมีจำนวน 81 แปลง เนื้อที่รวม 7.1 หมื่นไร่ ส่วนที่แปลงที่เหลือเป็นการคัดค้านเต็มแปลง เนื้อที่ 3 แสนไร่

ด้าน นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักทั่วประเทศว่า มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1.16 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) มากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2558 จำนวน 700 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนใหญ่มี 3,900 ล้าน ลบ.ม. สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2,000 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ในช่วงฤดูแล้งปี 2560 จะมีน้ำเพียงพอสำหรับทำการเกษตร