รฟม.ตั้งบริษัทลูกดูแลตั๋วร่วม
คมนาคมเร่งแผนใช้ตั๋วร่วมให้ทันต้นปีหน้า พลิกให้ รฟม.ตั้งหน่วยธุรกิจบริหารชั่วคราว
คมนาคมเร่งแผนใช้ตั๋วร่วมให้ทันต้นปีหน้า พลิกให้ รฟม.ตั้งหน่วยธุรกิจบริหารชั่วคราว
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธานติดตามความคืบหน้าโครงการตั๋วร่วมเพื่อใช้บริการรถไฟฟ้า ว่า ที่ประชุมมีมติให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (รถไฟฟ้าใต้ดิน) รถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ จัดตั้งหน่วยธุรกิจ (บียู) ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการระบบการใช้ตั๋วร่วมในรถไฟฟ้า 4 สาย คือ สายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดง และสายสีเขียว (รถไฟฟ้าบีทีเอส) เป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อให้การเปิดใช้บริการระบบตั๋วร่วมทำได้ทันตามกำหนดในช่วงเดือนม.ค. 2560 โดยคาดว่าจะเสนอรูปแบบการจัดตั้งหน่วยธุรกิจตั๋วร่วมให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเดือน ก.ย.นี้
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องจัดตั้งบริษัทตั๋วร่วมมาบริหารตั๋วร่วมเป็นการชั่วคราวไปก่อน เนื่องจากการเปิดให้เอกชน เช่น สถาบันการเงิน หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในกระทรวงคมนาคม และภาคเอกชน เข้าร่วมทุนในกิจการของภาครัฐ (พีพีพี) ในการลงทุนระบบตั๋วร่วม จะต้องใช้เวลาพิจารณาอีกระยะหนึ่ง หากรอให้กระบวนการเปิดให้ภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของภาครัฐ (พีพีพี) ในโครงการตั๋วร่วมแล้วเสร็จก่อนก็จะใช้เวลาพิจารณานานมาก
“เบื้องต้นจะให้ รฟม.เป็นแกนกลางตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารงานตั๋วร่วมชั่วคราว คือ บริษัทตั๋วร่วม (Connect Ticket Company) หรือซีทีซี พร้อมเจรจาดึงพันธมิตร เช่น ธนาคารกรุงไทย ให้เข้ามาดูแลเรื่องการรับจ่ายเงินในบัตร บีทีเอส แอร์พอร์ตเรียลลิงค์ และรถไฟใต้ดินร่วมกัน จากนั้นจะมีการเปิดให้เอกชนเข้าร่วมทุนในบริษัทดังกล่าว โดยภาครัฐจะคงสัดส่วนถือหุ้นน้อยกว่า 40% เพื่อการดำเนินการที่คล่องตัว แต่สัดส่วนการถือหุ้นที่ชัดเจนต้องรอดูก่อน” นายชาติชาย กล่าว
นายชาติชาย กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังเร่งรัดโครงการตั๋วร่วมแมงมุม ซึ่งเป็นบัตรค่าโดยสารที่สามารถจ่ายค่าบริการรถไฟฟ้าและระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ซึ่งขณะนี้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดทำระบบบริหารจัดการรายได้กลาง (เซ็นเตอร์ เคลียริ่งเฮาส์) เสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการทดสอบระบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมเร่งรัดการใช้บัตรใบเดียวจ่ายค่าบริการมอเตอร์เวย์และทางด่วนได้ทั้งสองระบบ ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบรายงานว่า ขณะนี้การดำเนินการอยู่ระหว่างการทดลองเชื่อมต่อระบบ คาดว่าภายในเดือน ก.ย.นี้จะแล้วเสร็จ และเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้ โดยผู้ที่มีบัตรอีซี่พาสหรือเอ็มพาสอยู่แล้วไม่ต้องซื้อบัตรใหม่ และสามารถใช้บัตรใดบัตรหนึ่งในการเชื่อมต่อการเดินทางจากมอเตอร์เวย์และทางด่วนได้ทันที
ภาพประกอบข่าว