ชงม.44แก้ปมเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ธนารักษ์ชงนายกฯ ใช้มาตรา 44 ปลดล็อกให้เอกชนเช่าพื้นที่ ทำเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นนิคมอุตสาหกรรมได้

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า การเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ผ่านมา พบปัญหาว่าเอกชนไม่สนใจเข้ามาร่วมประมูล เพราะมีความกังวลในข้อกฎหมายของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่ระบุไว้ชัดเจนว่าผู้บริการพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมจะต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์พื้นที่ที่จัดตั้งนิคมฯ จึงจะนำพื้นที่นิคมฯ ไปให้ผู้ประกอบการอื่นเช่าพื้นที่ต่อได้

สำหรับการเปิดประมูลเขตเศรษฐกิจพิเศษ ถือว่าเป็นการให้เอกชนเช่าพื้นที่ของกรมธนารักษ์เพื่อนำไปพัฒนา ทำให้เอกชนที่จะพัฒนาพื้นที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ จึงไม่สามารถนำไปให้ผู้ประกอบการรายอื่นเช่าพื้นที่ต่อได้ตามกฎหมาย

ดังนั้น กรมธนารักษ์จะรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ พร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ไข โดยจะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ใช้อำนาจมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ ยกเว้นให้เอกชนที่ประมูลเขตเศรษฐกิจพิเศษไปพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมสามารถให้ผู้ประกอบการรายอื่นเช่าพื้นที่ต่อได้ ซึ่งจะทำให้มีเอกชนสนใจเข้ามาประมูลพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษมากขึ้น

นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวว่า เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา กรมธนารักษ์เปิดให้เอกชนยื่นประมูลการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 พื้นที่ ได้แก่ ที่ จ.ตราด มุกดาหาร และหนองคาย ปรากฏว่ามีเอกชนสนใจประมูลพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.ตราด เพียงแห่งเดียวเท่านั้น โดยเสนอพัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์การท่องเที่ยวของประเทศที่เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ได้เป็นการพัฒนาจัดตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรม ทำให้ข้อเสนอของเอกชนรายนี้ไม่ติดข้อกฎหมาย รวมทั้งเอกชนได้เสนอผลตอบแทนมากกว่าที่กรมธนารักษ์ตั้งไว้ โดยกรมธนารักษ์ได้พิจารณาข้อเสนอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเสนอให้คณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษชุดใหญ่พิจารณาเห็นชอบต่อไป

สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ จ.มุกดาหาร และ จ.หนองคาย นั้น เหมาะสำหรับการพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรม ทำให้คาดว่าหลังจากมีการแก้ปัญหาข้อกฎหมายและเปิดประมูลใหม่จะมีเอกชนให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลมากขึ้น

ทั้งนี้ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจะให้เอกชนพัฒนาได้ 4 แบบ คือ การพัฒนาพื้นที่เป็นนิคมอุตสาหกรรม ทำเกษตรอุตสาหกรรม โลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว