posttoday

เข็นแผนล้างหนี้รถเมล์9.2หมื่นล้าน

02 พฤษภาคม 2559

คมนาคมดันแผนล้างหนี้ ขสมก. 9.23 หมื่นล้านบาทต่อ หลังล่าช้ามา 5 ปี โยนคลัง-สำนักงบฯ รับภาระ

คมนาคมดันแผนล้างหนี้ ขสมก. 9.23 หมื่นล้านบาทต่อ หลังล่าช้ามา 5 ปี โยนคลัง-สำนักงบฯ รับภาระ

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงได้เรียกผู้บริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เข้าหารือแนวทางปรับโครงสร้างหนี้ค่าเชื้อเพลิงน้ำมัน ขสมก. พร้อมติดตามความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจการ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ ขสมก. ที่สูงถึง 9.23 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงคมนาคมยืนยันแนวทางที่จะให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณรับภาระหนี้ดังกล่าวไปจัดการ ซึ่งเป็นแนวทางที่กำหนดขึ้นภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ

“แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมากระทรวงจะมีการทบทวนแผนฟื้นฟูกิจการของ ขสมก.แล้ว 2-3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ขณะที่แนวทางหลักๆ ในการฟื้นฟูกิจการของ ขสมก. จะมีทั้งแนวทางการเสนอให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเป็นผู้รับภาระชำระหนี้สะสมของ ขสมก. วงเงิน 9.23 หมื่นล้านบาท การปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิการการบริหารจัดการ อาทิ การนำระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) เข้ามาใช้เพื่อลดจำนวนบุคลากร การลดภาระค่าใช้จ่ายค่าเชื้อเพลิง และการลดภาระด้านบุคลากร เช่น การลดค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือนและสวัสดิการพนักงาน รวมถึงการจัดทำโครงการเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการเกษียณก่อนอายุจำนวน 439 คน และการจัดตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ขึ้นมาบริหารจัดการ เป็นต้น” แหล่งข่าวเปิดเผย

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมผลักดันแผนล้างหนี้สะสมของ ขสมก.อย่างต่อเนื่อง โดยในสมัยที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็น รมช.คมนาคม ในช่วงปี 2555 ได้เห็นชอบแผนล้างหนี้สิน ขสมก. 7.8 หมื่นล้านบาท โดยจะโอนหนี้สินไปให้กระทรวงการคลัง และต่อมา นายชัชชาติ ขึ้นเป็น รมว.คมนาคม การโอนหนี้ ขสมก.ไปให้กระทรวงการคลังก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล

ต่อมาในปี 2558 นายสมหมาย ภาษี ซึ่งดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ได้เสนอแนวทางล้างหนี้ ขสมก. ซึ่งเพิ่มเป็น 8-9 หมื่นล้านบาท โดยโอนหนี้ให้กระทรวงการคลังดูแลและจัดสรรงบประมาณชดใช้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน ขณะที่หนี้สิน ณ เดือน มี.ค. 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 92,393 ล้านบาท หรือเพิ่มจากปี 2555 กว่า 1.4 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวยังระบุว่า ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก. ซึ่งจะมีการเสนอแผนฟื้นฟูกิจการฉบับที่ปรับปรุงแล้วให้บอร์ดพิจารณา ก่อนจะเสนอแผนให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณา รวมทั้งติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูของ ขสมก.ต่อไป

แหล่งข่าวระบุว่า ในส่วนภาระหนี้ค่าเชื้อเพลิงของ ขสมก. ที่ค้างกับบริษัท ปตท. มาตั้งแต่ปี 2553 ถึงเดือน มี.ค. 2559 เงิน 1,900 ล้านบาท กระทรวงมีแนวคิดจะขอกู้เงินจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง มาชำระคืนหนี้ก้อนดังกล่าวเพื่อลดภาระดอกเบี้ย เนื่องจากปัจจุบันบริษัท ปตท.คิดดอกเบี้ยจาก ขสมก. ในอัตรา 7% แต่หากให้ สบน.กู้อัตราดอกเบี้ยจะเหลือเพียง 2.57% เท่านั้น

นอกจากนี้ กระทรวงจะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนการใช้บริการรถเมล์ฟรีและเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ (พีเอสโอ) ให้กับ ขสมก.เร็วขึ้น เนื่องจากตั้งแต่มีนโยบายรถเมล์ฟรีออกมา ขมสก.ยังไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเลย ขณะที่ปัจจุบันรัฐบาลตรึงค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก. โดยเฉพาะรถเมล์ร้อนที่ราคาตั๋วอยู่ที่ 6.50 บาท/เที่ยว แต่ต้นทุนในการวิ่งให้บริการผู้โดยสารของ ขสมก.อยู่ที่ 11 บาท/เที่ยว

“หากคลังเร่งพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนดังกล่าวได้เร็ว ก็จะช่วยลดภาระของ ขสมก.ได้ระดับหนึ่ง” แหล่งข่าวระบุ