posttoday

ดึง28ชาติซื้อยาง1หมื่นล้าน

01 มีนาคม 2559

พาณิชย์ดึงผู้นำเข้า 28 ประเทศจับคู่ซื้อยางพารากับผู้ผลิตไทย คาดยอดทะลุ 1 หมื่นล้าน ไตรมาส 2 คาดฟื้น

พาณิชย์ดึงผู้นำเข้า 28 ประเทศจับคู่ซื้อยางพารากับผู้ผลิตไทย คาดยอดทะลุ 1 หมื่นล้าน ไตรมาส 2 คาดฟื้น

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้นำผู้ซื้อยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพาราจากต่างประเทศรวม 147 บริษัท จาก 28 ประเทศ ทั้งจีน อาเซียน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สหรัฐ รัสเซีย แอฟริกาใต้ ซาอุดิอาระเบีย และตุรกี ฯลฯ มาจับคู่ซื้อขายกับผู้ผลิตของไทย 109 บริษัท โดยผลิตภัณฑ์ยางที่ผู้ซื้อจากต่างประเทศสนใจ ได้แก่ ยางล้อ ยางตัน หมอน ที่นอนยางพารา ยางธรรมชาติ ถุงมือยาง ไม้ยาง เป็นต้น คาดว่าจะเกิดการซื้อขายหลังจบงานกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ภายในงานยังได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างผู้จำหน่ายไทย คือ บริษัท วงศ์บัณฑิต กับผู้นำเข้าจีน 3 ราย ได้แก่ บริษัท Qingdao Runlian ซื้อขายยางแท่ง STR20 จำนวน 5 หมื่นตัน บริษัท Shanghai Han Qing Import & Export ซื้อยางแท่ง STR20 จำนวน 3 หมื่นตัน และบริษัท Shanghai Ting Qing Industry ซื้อยางแผ่นรมควัน 3 หมื่นตัน รวมทั้งสิ้น 1.1 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 3,850 ล้านบาท

นอกจากจับคู่ทางธุรกิจเพื่อซื้อขายยางแล้ว กระทรวงพาณิชย์ยังเร่งผลักดันเพื่อช่องทางการส่งออกยางพาราเพื่อผลักดันราคา โดยล่าสุดกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแจ้งว่าได้มีการจัดคณะผู้ประกอบการไทยไปขายยางพาราที่อินเดีย สามารถตกลงซื้อขายไม้ยางได้กว่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐ

นางอภิรดี กล่าวว่า ส่วนการเดินทางไปเยือนรัสเซียและเบลารุส ที่นำคณะโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ทางรัสเซียได้ตกลงซื้อยางพาราจากไทย 8 หมื่นตัน หลังจากนี้จะมีการตกลงรายละเอียดการซื้อขายและลงนามกันต่อไป ส่วนเบลารุสสนใจที่จะเข้าลงทุนผลิตยางรถขนาดใหญ่ในไทย คือ บริษัท เจเอสซี เบลชีน่า เพราะมองว่าไทยเป็นฐานการลงทุนเพื่อเชื่อมต่อไปยังประเทศอาเซียน

"ทางเบลารุสและรัสเซียที่เดินทางไปเจรจาสนใจลงทุนผลิตยางรถในไทย ซึ่งไทยก็ได้ชวนให้มาลงทุนผ่านนิคมอุตสาหกรรมแปรรูปยางพารา ซึ่งก็จะได้สิทธิพิเศษการลงทุนจากบีโอไอ ซึ่ง 2 ประเทศก็สนใจ" นางอภิรดี กล่าว

นายกรกฎ กิตติพล ผู้จัดการด้านการตลาด บริษัท ไทยฮั้วยางพารา กล่าวว่า ได้เข้าร่วมการจับคู่ซื้อขายยางพาราด้วย โดยคาดว่าจะมียอดขายประมาณ 30-50 ล้านเหรียญสหรัฐ ปริมาณยางกว่า 3-5 หมื่นตัน

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของการส่งออกยางพาราในแง่มูลค่าและปริมาณปี 2559 เชื่อว่าจะขยายตัวเป็นบวก แต่ต้องจับตาภาวะเศรษฐกิจโลกว่าจะฟื้นตัวได้หรือไม่ และคาดว่าราคาจะถีบตัวจากปัจจุบันกิโลกรัมละ 42-43 บาท ขึ้นมาได้ภายในไตรมาส 2 โดยน่าจะเห็นราคาปรับขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท