วางโรดแมปประหยัดพลังงาน20ปี
พลังงานวางโรดแมปยาว20ปี เพิ่มประสิทธิภาพ-ลดการใช้พลังงานเฉลี่ย 8.4 แสนล้าน/ปี ดึงเอสเอ็มอีใช้สิทธิ์เงินกู้พิเศษ
พลังงานวางโรดแมปยาว20ปี เพิ่มประสิทธิภาพ-ลดการใช้พลังงานเฉลี่ย 8.4 แสนล้าน/ปี ดึงเอสเอ็มอีใช้สิทธิ์เงินกู้พิเศษ
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จะเร่งเดินหน้าแผนปฏิบัติการตามแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว (Thailand integrated Energy Blueprint:TIEB) ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม 5 แผนงาน ประกอบไปด้วย แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (พีดีพี) แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas plan) และแผนบริหารน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan)
ทั้งนี้ ตามแผนงานในปี 2559 นักธุรกิจ นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศจะเกิดความมั่นใจในการวางแผนด้านพลังงานของไทยที่จะเป็นกลไกสำคัญช่วยเสริมศักยภาพของเศรษฐกิจในระยะยาวต่อไป โดยเป้าหมายในการลดใช้พลังงานลงเฉลี่ยปีละ 8.42 แสนล้านบาท ได้แก่ ลดการสร้างโรงไฟฟ้าประมาณ 10,000 เมกะวัตต์ ลดการใช้เชื้อเพลิงภาคขนส่ง ในกลุ่มน้ำมันเบนซินให้เหลือ30ล้านลิตรต่อวันจากระดับคาดการณ์การใช้ที่ 47 ล้านลิตรต่อวันในปี 2579 กลุ่ม น้ำมันดีเซลอยู่ที่ 46 ล้านลิตรต่อวัน จากระดับคาดการณ์วันละ77 ล้านลิตร ก๊าซหุงต้ม 9 ล้านก.ก.ต่อวัน จากระดับที่คาดการณ์ วันละ 35 ล้านก.ก.
นอกจากนี้ ยังลดต้นทุนขนส่งน้ำมันจากเดิมที่ขนส่งสทางรถยนต์มาเป็นการขนส่งน้ำมันทางท่ออีกด้วย
ขณะที่นายธรรมยศ ศรีช่วย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า สำหรับมาตรการสำคัญของแผนอนุรักษ์พลังงานจะส่งเสริมการลดใช้พลังงานทุกภาคส่วนทั้งภาคขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์และภาคประชาชน โดยเฉพาะการสนับสนุนให้โรงงานอุตสาหกรรมและธุรกิจห้องเย็น ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ไช้พลังงานสูง ควรมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง เช่น โรงน้ำแข็งและห้องเย็น ที่มีอยู่ 2,466 แห่ง ให้เข้าโครงการปรับเปลียนอุปกรณ์เครื่องจักรเพื่อให้กิดการประหยัดพลังงาน ได้ โดยภาครัฐได้เตรียมเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานไว้รวม 1 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่าย โดยในวันที่ 4 ธ.ค.นี้จะร่วมประชุมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย เพื่อจูงใจให้เอกชนเข้าโครงการดังกล่าว
นอกจากนี้ จะขยายไปถึงกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในธุรกิจอื่นๆ ที่มีการใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่มีอายุเกิน 10 ปี กลุ่มอาคารก่อสร้างใหม่ โดยกระทรวงพลังงานคาดว่าวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่ตั้งไว้ 1 หมื่นล้านบาท จะช่วยให้เกิดผลประหยัดประมาณ 4,404 ล้านบาทต่อปี สามารถลดการนำเข้าน้ำมันดิบได้ 247.6 ล้านลิตร
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานและกระทรวงต่างๆร่วมกันจัดทำแผนส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคต โดยตั้งเป้าหมายจะเกิดรถไฟฟ้า1.2 ล้านคันในปี 2579 โดยจะพิจารณากฏหมายและระเบียบต่างๆ เช่น แก้กฏหมายให้เอกชนขายไฟฟ้าให้กับรถยนต์ได้ จากเดิมที่ต้องขายให้แก่ 3 การไฟฟ้าเท่านั้น รและต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับ จุดบริการชาร์จไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม รถยนต์ทั่วไป ทางรัฐบาลได้เริ่มส่งเสริมให้เกิดการประหยัดพลังงานและลดภาวะโลกร้อน แล้ว จากการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ และใช้อีโคสติกเกอร์ ที่จะเริ่มตั้งแต่ปี 2559 ส่งผลให้แนวโน้มรถยนต์ในอนาคต จะมีขนาดเล็กลงจากปัจจุบันมีค่าเฉลี่ย 1,800-2,000 ซีซี เพราะรถขนาดเล็กและปล่อยมลพิษน้อยและใช้พลังงานทดแทน เช่น รถยนต์อี 85 ภาษีใหม่ไม่ได้จ่ายเพิ่มขึ้นเหมือนกับรถขนาดใหญ่และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ในปริมาณสูง โดยในปี 2559 จะมีรถยนต์นั่งติดอีโคสติกเกอร์ 4 แสนคันและ รถกระบะ 2 แสนคัน