"ฉัตรชัย" คุมประตูระบายน้ำเองหลังแนวโน้มแล้งหนัก

"ฉัตรชัย" ยันคุมประตูระบายน้ำเอง ชี้เปิดปิดต้องรายงาน หลังคาด สิ้น ต.ค.มีน้ำใน4เขื่อนหลักใช้การได้เพียง 4,300ล้าน ลบ.ม.

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงปริมาณน้ำล่าสุดมีน้ำใช้การได้ 4.2 พันล้านลบ.ม. ว่า หลังจากนี้ต้องเข้มงวดการบริหารจัดการน้ำ ของกรมชลประทาน เพื่อให้มีน้ำเพียงพอตลอดฤดูแล้ง โดยการเปิด ปิด ประตูระบายน้ำให้รายงานตรงมาทุกครั้ง

"สมัยนี้คงไม่มีการเมืองสั่ง เปิดหรือปิดได้ เพราะรัฐบาลก็คือพวกผม คงไม่มีใครกล้าสั่งนอกแผน ยืนยันว่าน้ำกิน น้ำใช้พอแน่นอน แต่ภากเกษตร หากใครปลูกก็ต้องยอมรับความเสี่ยง เพราะรัฐบาลเตือนแล้วซึ่งล่าสุดพบว่า มีนาปรังงอกมาประมาณ2ล้านไร่ เกษตรกรก็ต้องยอมรับหากเสียหาย"พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว

สำหรับความคืบหน้าของการลงพิ้นที่ชี้แจงเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา 22 จังหวัดเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงแล้วประมาณ80% โดยสิ้นต.ค.นี้จะครบทั้งหมด ซึ่งการชี้แจงเพื่อให้เกษตรกรทราบถึงมาตรการที่รัฐบาลช่วยเหลือ 8 มาตรการที่เกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรัง จะสามารถอยู่ได้ รวมทั้งมีการแจกพันธุ์สัตว์ พันธุ์ พืชใช้น้ำน้อย

"การลงพื้นที่ไปพูดคุยกับชาวบ้าน โดยมีกระทรวงมหาดไทยลงไปด้วย  ทำให้เกษตรกรมีความเข้าใจมากขึ้น หากเกิดภัยพิบัติเป็นปัญหาภัยแล้ง ประกาศเป็นพื้นที่วิฤกตภัยแล้ง จะช่วยเหลือตามระบบกระทรวงการคลัง"พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว

รมว.เกษตรฯกล่าวว่า ทางราชการไม่มีสิทธิไปห้ามชาวนาปลูกข้าว  อย่างไรก็ตามเพื่อการเกษตร ที่ยั่งยืน กระทรวงเกษตรฯ จะเดินหน้าทำความเข้าใจกับเกษตรกร ให้เข้าใจการจัดโซนนิ่งปลูกพืชชัดเจนไป พร้อมกับตั้ง ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรให้ครบวงจร 882 แห่งว่า ในพื้นที่ควรทำอะไร ซี่งเป็นพื้นฐานข้อมูลมีความสำคัญให้เกิดภายในสามเดือนนี้ ทั้งมาตรการลดต้นทุน การเพิ่มโอกาสแข่งขัน  สามารถทำไปพร้อมกันได้ต่อเนื่องจะเกิดการปรับโครงสร้างเกษตรในระยะต่อไป