นายกฯปลื้มทีมศก.ใหม่ทำงานเข้ากันลั่นใช้งบกระตุ้นศก.คุ้มค่า

"ประยุทธ์" ปลื้มทีมเศรษฐกิจใหม่ทำงานรับลูกกันดี สั่งทุกหน่วยงานใช้งบกระตุ้นศก.1.3 แสนล้านเกิดประโยชน์สูงสุด จ่อเชือดองค์กรมหาชน-กองทุนไร้ประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ที่ผ่านมาก็ได้มีทำงานในเชิงโครงสร้างและกฎหมายต่างๆไปแล้วบางส่วน รัฐมนตรีใหม่ก็จะมาเพิ่มเติมลงรายละเอียดลึกๆ ในส่วนของการขับเคลื่อนให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายของประชาชน และงบการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งโครงการใหญ่เดินหน้าไปมากแล้ว แต่เกิดขึ้นได้ช้าไปบ้าง วันนี้จะเพิ่มการลงทุนขนาดเล็กเพื่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปดูแลในส่วนนี้ เพื่อเสริมช่องว่างของการใช้งบประมาณในการสร้างความเข็มแข็งของกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงมหาดไทย ที่เดินหน้าต่อไป

สำหรับกองทุนหมู่บ้านก็ ได้ให้นบายไปในการส่งเสริมไปว่า หลายพื้นที่ที่ยังไม่เรียบร้อยจากผลประเมินตั้งแต่ปี 2555 มี ก็ต้องหามาตรการฟื้นฟูปรับปรุงให้เกิดความเข้มแข็งเพื่อที่จะอนุมัติงบประมาณให้ ส่วนหมู่บ้านที่มีผลการบริหารดีก็ไม่น่าห่วง สามารถนำงบไปให้แต่ละหมู่บ้านบริหารได้ทันที ทั้งนี้ต้องยึดหลักความเป็นธรรมและทั่วถึง แตกต่างจากหลักประชานิยมที่เน้นเฉพาะพื้นที่ฐานเสียง ซึ่งคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านต้องปรับปรุงตัวเองเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการที่ ครม.ได้อนุมัติงบประมาณ 1.3 แสนล้านบาทในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นว่า ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืน ไม่ให้เป็นเรื่องของการสร้างความนิยมต่างๆ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับต้องไม่ทุจริต ประชาชนต้องไม่ให้ความร่วมมือ การแก้ไขปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน อย่าหวังเฉพาะเรื่องกฎหมายที่ใช้เวลานาน ต้องสร้างไปพร้อมๆกันตามหลัก 3 ป. ปลูกจิตสำนึก ปราบปราม ป้องกัน ขณะนี้ยังมีการพิจารณาการทำงานขององค์กรมหาชนต่างๆ โดยภายในสัปดาห์หน้าจะทราบว่า หน่วยงานใดจะได้รับการสนับสนุนต่อไป หรือหน่วยงานใดที่ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด และสิ้นเปลืองงบประมาณ ก็ต้องปรับปรุงแก้ไข บางหน่วยอาจจะต้องยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนความรับผิดชอบใหม่ รวมไปถึงกองทุนต่างๆที่ต้องมีการทบทวนมาตรการใช้จ่ายให้ชัดเจนขึ้น เนื่องจากมีการร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมมามาก

"วันนี้ผมสบายใจ เห็นท่านรองนายกฯ (สมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจคุยกันอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส และรับงานผมทุกสิ่งที่สั่งการแป ดูเหมือนว่ารัฐมนตรีใหม่กำลังใจเยอะ ผมก็บอกว่า กำลังใจมีเยอะ แต่มีเวลาสั้นไปหน่อย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในส่วนของการแก้ไขปัญหาทำประมงผิดกฎหมายนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ดูแลผู้ที่เดือดร้อน ที่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือให้ถูกต้องตามกฎหมายใหม่ เพื่อให้สามารถจดทะเบียนได้ หรือหากมีอุปสรรคจะทำอย่างไร ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณามา นอกจากนี้ยังเพิ่มการพูดคุยกับประเทศต่างๆที่มีแหล่งจับปลา เพื่อให้เกิดความร่วมมือร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สัมปทาน หรือพื้นที่ที่ร่วมมือกัน สำหรับเรื่องมาตรฐานการบินพลเรือน (ICAO) ขณะนี้ก็ได้ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ในการเดินหน้าการแก้ไขปัญหา โดยการนำบุคลากรจากส่วนต่างๆเข้ามาร่วมในคณะทำงานได้ ทั้งคนในกองทัพอากาศหรือจากมิตรประเทศ ซึ่งกฎหมายปกติอาจจะทำไม่ได้

นายกฯยังได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามอย่างใกล้ชิดที่ผ่านมาก็สถานการณ์ดีขึ้นมาอยู่ช่วงหนึ่ง และก็ลดลงไปอีก ตอนนี้ก็เร่งให้ติดตามเรื่องการลักลอบนำน้ำมันปาล์มเข้ามา ซึ่งกองทัพเรือก็เฝ้าระวังทางด้านทะเลก็ไม่ได้รับรายงานว่ามีการลักลอบเข้ามา ส่วนที่รัฐบาลสั่งนำเข้ามา 5 หมื่นตันนั้นก็ผ่านมานานแล้ว ไม่ได้ส่งผลกระทบกับราคาในขณะนี้ เบื้องต้นกำลังให้ไปในส่วนของโรงผลิตขนาดเล็กที่อาจจะไม่ได้แจ้งยอดเข้าระบบ เมื่อผลิตออกมาน้ำมันปาล์มก็อาจจะเกินไปมาก จึงทำให้ราคาตกลง ก็ต้องไปเพิ่มมาตรฐานเมล็ดปาล์มที่มาทำน้ำมันต้องได้ระดับ 17% แต่ก็มีการต่อรองเหลือ 12-13% ตรงนี้ก็ต้องกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านไว้ด้วย ขณะที่ยางพาราถือว่าสถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งไม่อยากทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ก็จำเป็นต้องมีมาตรการตัดฟันบางส่วนที่บุกรุกให้จำนวนลดลง และมีมาตรการดูแลเป็นการชั่วคราว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ข้าวราคาถูกของรัฐบาลได้เปิดจำหน่ายแล้วในสหกรณ์ 58 แห่ง ซึ่งต้องการช่วยแบ่งเบาภาระของผู้มีรายได้น้อย ดังนั้นผู้ที่มีรายได้มากก็ไม่อยากให้ไปซื้อ เพราะพอคนรวยไปซื้อหมด คนจนไม่ได้ก็ด่าตนอีก รวมไปถึงการดูแลราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค ที่ผ่านมามีการตำหนิรัฐบาลว่าไม่ได้ดูแล ซึ่งตนก็ได้ติดตามตัวเลขอยู่ตลอด ก็เห็นว่าตัวเลขไม่ต่างกันมากนัก อีกทั้งยังปัจจัยอื่นๆด้วยที่ทำให้สินค้าบางประเภทราคาสูงขึ้น ประชาชนต้องช่วยพิจารณาว่า สินค้าแต่ละชนิดขึ้นราคาอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่ หรือหากพบว่ามีการค้ากำไรเกินควรก็แจ้งมา จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่ใช่มาต่อว่ารัฐบาลอย่างเดียว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยว่า ขณะนี้ต้องมีการพัฒนาปรับปรุงทางน้ำ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา และคลองลาดพร้าว เบื้องต้นประชาชนตรงจุดนั้นก็เห็นด้วย รู้ว่าอยู่ในพื้นที่นั้นผิดกฎหมาย แต่เขาก็อยากจะรู้ว่า ถ้าย้ายออกไปจะมีมาตรการใดมาเยียวยา เรื่องนี้ไม่ใช่รังแกคนจน แต่เป็นการพัฒนา ก็ได้ให้แนวคิดใหม่ไปกับทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯว่า นอกเหนือจากโครงการบ้านเอื้ออาทรแล้ว ก็ควรที่จะไปสำรวจดูหมู่บ้านจัดสรรที่ขายไม่ได้ จะสามารถเข้าไปต่อรองราคาได้อย่างไรแล้วรัฐสนับสนุนได้เท่าใดในเรื่องของการเยียวยา อาจจะเป็นเงินดาวน์ และคนที่ย้ายออกไปก็ไปผ่อนต่อเอง ถ้าทำได้ก็มีผลดีทั้งระบบ ทั้งประชาชนมีที่อยู่ เอกชนก็ขายบ้านได้ เศรษฐกิจหมุนเวียนดีขึ้น สำหรับบางพื้นที่ที่มีการไล่ที่เนื่องจากบุกรุกนั้น ขอกำชับเจ้าหน้าที่ไม่ให้นำกฎหมายมาใช้อย่างเดียว ควรพิจารณาแนวทางการขยับขยายต่อไปอย่างไรด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น

ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาในช่วงนี้คือ ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่แม้จะมีเขื่อนหลายแห่ง แต่เมื่อน้ำน้อย จึงไม่มีน้ำส่งเข้าเขื่อน จึงต้องหาแหล่งน้ำขนาดเล็กให้มากขึ้นเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก วันนี้ก็ได้มีการอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมให้หน่วยทหารไปเร่งดำเนินการ เพื่อให้ทันกักเก็บในช่วงปลายฤดูฝน ส่วนการนำน้ำจากแม่น้ำสาละวินหรือแม่น้ำโขงมาใช้นั้นเป็นโครงการใหญ่ใช้งบประมาณมาก ไม่รู้จะสร้างได้เมื่อใด วันนี้ก็อาจจะไปดูในส่วนของการทำที่กักเก็บน้ำก่อนที่น้ำจะลงไปยังแม่น้ำสาละวิน หรือขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงน้ำหลาก ซึ่งในระดับผู้นำก็รับปากกับตน แต่ต้องมีสร้างที่เก็บน้ำบริเวณชายแดนเสียก่อน ทั้งนี้ตนอยากให้มีการทบทวนเรื่องการใช้ประโยชน์ของเขื่อนปากมูล อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเป็นแหล่งเก็บน้ำเพื่อการเกษตร แต่อาจขัดแย้งกับนิเวศน์หรือวิถีชีวิตของประชาชน น่าจะมาหาแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ไม่สร้างผลกระทบและสร้างประโยชน์ได้ เช่นเดียวกับพื้นที่ในทุกภาคที่ควรทำทะเลสาบขึ้นมา โดยเฉพาะในจุดที่มีน้ำท่วมบ่อย เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งน้ำ และแหล่งจับสัตว์น้ำ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ได้มีการพิจารณาการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ซึ่งการไฟฟ้านครหลวง (กฟผ.) ได้ทำเรื่องเสนอเข้ามาทั้งหมด 120 กม.ครอบคลุม กทม.และต่างจังหวัด ในเส้นทางที่สำคัญ จึงได้ให้ไปศึกษาร่วมกันทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ หากมีการดำเนินการจะได้ทำพร้อมกันไปเลย เป็นการบูรณาการทำงาน