"บิ๊กตู่"มอบงานช้าง"หม่อมอุ๋ย"

นายกฯ มอบงานช้างหม่อมอุ๋ยดึงเงินประกันสังคมมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน-ลุยสัมปทาน

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามในหนังสือสั่งการภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2558 ให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง และ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน ร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางการบริหารเงินกองทุนประกันสังคมเพื่อนำมาลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานตามนโยบายรัฐบาลที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนสูง

คำสั่งการนายกฯ ระบุว่า ให้พิจารณาจัดหาเงินมาลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และกองทุน อื่นๆ ที่จะจัดตั้งในอนาคต เช่น กองทุนด้านสาธารณสุข กองทุนด้านการศึกษา เพื่อสนับสนุนนโยบายการพัฒนาที่สำคัญของรัฐบาล และกองทุนประกันสังคมก็จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนที่สูงด้วย

ปัจจุบัน กองทุนประกันสังคมมีเงินอยู่ 1.25 ล้านล้านบาท ในแต่ละปีมีเงินลงทุน 3.7-4 แสนล้านบาท มีผลตอบแทนเฉลี่ย 7.14% จากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หุ้นกู้เอกชน

นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้สั่งการให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ไปร่วมกับกระทรวงพลังงาน ทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 โดยให้เชิญคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน สภาปฏิรูปแห่งชาติ และกลุ่มผู้มีความเห็นต่าง เพื่อร่วมรับฟังความคิดเห็น และสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ตลอดจนให้ศึกษาประเด็นข้อเรียกร้องของเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทยด้วย

สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานนั้น นอกจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ 2.08 หมื่นล้านบาทแล้ว กระทรวงการคลังยังมีแผนจัดตั้งกองทุนโครงสร้าง พื้นฐานเพื่อนำมาใช้ก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางชุมทางจิระ และ เส้นทางรถไฟทางคู่ที่นครปฐมประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 4.9 หมื่นล้านบาท แทนการกู้ยืมเงินในประเทศ

ขณะที่ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย 2558-2565 รัฐบาลมีแผนลงทุนระยะเร่งด่วนในปีนี้ 5.59 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 29% ของวงเงินลงทุนรวม 1.91 ล้านล้านบาท

ด้านสัมปทานปิโตรเลียมนั้น ขณะนี้กำลังรอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอให้ ครม.พิจารณาอีกครั้งก่อนเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา แต่กระทรวงพลังงานได้ตั้งเรื่องการเสนอให้ยื่นสิทธิสำรวจเพียง 60 วัน จากเดิม 120 วัน โดยกำหนดว่าต้องดำเนินการภายในปีนี้