ประยุทธ์ต่อสายญี่ปุ่นแก้ปมสายการบินในไทยถูกแบน

“บิ๊กตู่” เตรียมต่อสายหารือญี่ปุ่น หลังองค์การการบินพลเรือนญี่ปุ่นห้ามสายการบินในไทยขยายเปลี่ยนแปลงเส้นทางบิน 
                
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยหลังการเป็นประธานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัญจรครั้งที่1 เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ว่า ได้รับทราบถึงปัญหากรณีที่องค์กรการการบินพลเรือนญี่ปุ่น (JCAB) ประกาศห้ามไม่ให้สายการบินของไทยขยายหรือเปลี่ยนแปลงเส้นทางบิน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้เข้ามาตรวจมาตรฐานกรมการบินพลเรือนของไทยแล้วพบว่าต่ำว่าเกณฑ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไข
               
อย่างไรก็ตาม ต้องถามว่าการเข้ามาตรวจมาตรฐานกรมการบินพลเรือนของไอซีเอโอ มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เกิดข้อผิดพลาดมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ และจริงๆแล้ว ICAO เตือนมาหลายสิบครั้งแล้วแต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีการแก้ไข  แต่วันนี้ก็กำลังแก้ไขอยู่เพราะกรมการบินพลเรือนตอนนี้มีปัญหาเพราะไม่ได้มาตรฐานทั้งเรื่องโครงสร้างความปลอดภัยและอะไรต่างๆ แต่หากพูดเรื่องนี้มากประเทศก็เสียหาย 
                
“ฉะนั้นเราต้องชี้แจงเขา(ญี่ปุ่น) ว่ากติกาเหล่านี้เรื่องปลอดภัยเรารับรอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไข เช่นเดียวกับเรื่องไอยูยู การค้ามนุษย์ซึ่งก็เกิดมาจากอดีตทั้งสิ้น และเราก็เข้ามาแก้ปัญหาอยู่ทุกวันนี้ ถามว่าปัญหาเรื่องค้ามนุษย์ 180 วันจะทำทันหรือไม่ มันเป็นปัญหายาวนานเราก็แก้ไขขอให้ช่วยกันอธิบายด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
                
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  แนวทางการแก้ไขปัญหาขณะนี้คือต้องมีการชี้แจงระดับรัฐบาลซึ่งคงไม่ต้องเดินทางไปเจอแต่ต่อสายโทรศัพท์ไปหารือ ซึ่งต้องการจะแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดอยู่แล้ว แต่คงจะกำหนดเวลาไม่ได้เพราะเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของญี่ปุ่น ซึ่งก็หวังว่าทางญี่ปุ่นจะเข้าใจเพราะระหว่าง 2 ประเทศก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการเมืองของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน บางครั้ง นายกฯ เขาอาจจะอยากให้ แต่ครม.ของเขาไม่ให้เขาสู้กันทางการเมือง
                
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดปัญหานี้ขึ้นทำให้เห็นว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้มเรื่องเหล่านี้ให้พร้อม กับเรื่องความเสี่ยงต่างๆที่วันหน้าจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก โดยขณะนี้กำลังดำเนินการรัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาในเชิงโครงสร้าง ซึ่งรวมถึงการปรับโครงการกรมการบินพลเรือนด้วย  ต้องดูว่าใครมาแล้วต้องให้ความเชื่อมั่นเชื่อถือ ต้องทำใหม่หมด เช่นเรื่องของคนที่อดีตมีอยู่แค่9 คนเองปัจจุบันก็มีอยู่เท่าเดิม 
                
ทั้งนี้ เรื่องการปรับโครงสร้างกรมการบินพลเรือนผมสั่งการไปเดือน 1 แล้วต้องทำให้เร็วที่สุดซึ่งต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อของบประมาณ ซึ่งเราจะทำอย่างเร่งด่วนถ้ายังทำไม่ได้ก็พร้อมจะใช้อำนาจพิเศษสั่งตั้งและปรับโครงสร้าง แต่ปัญหาทั้งหมดนี้คงไม่เกี่ยวว่าต้องย้ายอธิบดีกรมการบินพลเรือน ถ้าย้ายก็ต้องย้ายรัฐบาลก่อนซึ่งก็ย้ายรัฐบาลที่แล้วออกไปแล้ว ซึ่งรัฐบาลไม่สั่งการไม่เอาใจใส่แล้วจะไปไล่ได้อย่างไรอธิบดีจะไปทำอะไรได้ โดยทางกรมการบินพลเรือนระบุว่าได้เสนอการปรับโครงสร้างไปแล้วแต่ไม่มีการอนุมัติ