posttoday

เปิดด่านถาวรช่องสายตะกู บูมค้าชายแดนพุ่งพันล้าน

21 พฤศจิกายน 2559

ประเทศไทยมีพรมแดนติดต่อกับกัมพูชาเป็นระยะทาง 725 กิโลเมตร

โดย...พิกุล แก้วหาวงษ์

ประเทศไทยมีพรมแดนติดต่อกับกัมพูชาเป็นระยะทาง 725 กิโลเมตร มีด่านถาวรที่สามารถส่งออกและนำเข้าสินค้าได้จำนวนหลายแห่งด้วยกันทำให้ปัจจุบันการค้าชายแดนมีบทบาทสูงอย่างต่อเนื่องหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ล่าสุด ประภาส รักษาทรัพย์ รอง ผวจ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.อ.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 2 ส่วนแยก 2 ได้ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เป็นด่านผ่านแดนถาวร

ประภาส กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนได้ร่วมกันเดินหน้าผลักดันยกระดับจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี ประเทศกัมพูชา เป็นด่านถาวรมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ ขณะนี้ทุกฝ่ายมีความพร้อมรับการยกระดับเป็นด่านผ่านแดนถาวร แต่ยังรอเพียงการอนุญาตใช้พื้นที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวเท่านั้น โดยเนื้อที่ที่จะขออนุญาตกรมอุทยานฯ ใช้ดำเนินการเปิดด่านผ่านแดนถาวรช่องสายตะกูดังกล่าวรวมทั้งหมด 250 ไร่ ซึ่งทางจังหวัดจะได้นำข้อสรุปที่ร่วมกันกำหนดแผนผังในครั้งนี้เสนอต่ออธิบดีกรมอุทยานฯ ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาเห็นชอบอนุญาตใช้พื้นที่ตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับช่องสายตะกูดังกล่าวได้เปิดให้ประชาชนทั้งสองฝั่งซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าแบบมนุษยธรรมมาตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. 2554 สัปดาห์ละ 1 วัน ก่อนจะยกระดับเป็นจุดผ่อนปรนพร้อมขยายวันเป็นสัปดาห์ละ 3 วัน คือ ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ในวันที่ 14 มิ.ย. 2557 กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2557 ได้ขยายเปิดทำการค้าขายตลอดทั้งสัปดาห์มาจนถึงปัจจุบัน จากการเก็บสถิติพบว่า เมื่อปีที่ผ่านมามียอดการจำหน่ายสินค้าที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกูดังกล่าวกว่า 300 ล้านบาท ส่วนมากเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์ก่อสร้าง และเครื่องใช้ไฟฟ้า หากยกระดับเป็นด่านผ่านแดนถาวรจะมีเงินสะพัดพุ่งถึงพันล้านบาทต่อปี

“หากมีการยกระดับจากจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูเป็นด่านผ่านแดนถาวรจะส่งผลดีทั้งด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวหากเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรอย่างเป็นทางการแล้วจะเป็นการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่เฉพาะนักท่องเที่ยวจากกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกหลายประเทศจะเดินทางมาเที่ยวผ่านด่านนี้เพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าในอนาคตเศรษฐกิจการค้าช่องสายตะกูดังกล่าวจะมีเงินสะพัดหลายเท่าตัวจากปัจจุบันที่มีมูลค่าการค้าขายเดือนละกว่า 25 ล้านบาท” รอง ผวจ.บุรีรัมย์ กล่าว

หลังจากยกระดับผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกูเป็นด่านถาวรเรียบร้อยแล้ว จะกลายเป็นด่านสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคักเป็นพิเศษไม่แพ้ที่อื่น เนื่องจากทางฝั่งกัมพูชาตรงข้ามกับ อ.บ้านกรวด กำลังสร้างกาสิโนที่ใกล้เสร็จแล้ว ซึ่งจะเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักให้มาท่องเที่ยวบริเวณชายแดนแห่งนี้เป็นจำนวนมาก