BKK Original แบรนด์ไทยไปไกลในตลาดโลก

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง

กระเป๋าแฟชั่นสัญชาติไทยแบรนด์ BKK Original (บีเคเค ออริจินัล) ที่มีมากกว่า 20 ทรง และลวดลายกว่า 500 ลาย ภายใต้แนวคิดการดีไซน์ที่ครองใจลูกค้าด้วยเข้าถึงทุกวัย ไปได้ทุกที่ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมซื้อเป็นของฝาก โดยในปี 2558 มียอดจำหน่ายมากกว่า 1.2 ล้านใบ พร้อมยอดขายรวมที่เติบโตขึ้นถึง 80% 

ณัฐชยา ปริยชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ ย่อยและกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเคเค ออริจินัล ประเทศไต้หวัน เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นธุรกิจในช่วงแรกเป็นการทำธุรกิจเสื้อผ้าก่อนในปี 2555 จากนั้นในปีถัดไปได้เริ่มต้นออกแบบกระเป๋าเพื่อทำตลาดและได้รับความนิยมอย่างมาก จึงผันมาทำธุรกิจกระเป๋าเต็มตัวภายใต้ชื่อแบรนด์ BKK Original ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการผลิตขึ้นครั้งแรกในกรุงเทพฯ รวมถึงต้องการสื่อว่าเป็นแบรนด์ของคนไทยอย่างแท้จริง

กระทั่งปี 2557 ได้บุกตลาดต่างประเทศครั้งแรกที่ไต้หวัน จากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยและนิยมซื้อกลับเป็นของฝากจำนวนมาก มีสาขาแรกที่ตลาดนัดจตุจักร และจากความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง จึงเริ่มส่งออกไปไต้หวัน พร้อมตัดสินใจตั้งบริษัทที่นั่น โดยมีสาขา 2 แห่ง นอกจากนี้ยังได้ขยายการทำตลาดไปถึงยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง รวมถึงตลาดอาเซียนด้วย

สำหรับตลาดในอาเซียน ให้ความสนใจประเทศมาเลเซียเป็นหลัก จากปัจจัยด้านรสนิยมที่ไม่แตกต่างจากคนไทยมากนัก รวมถึงกำลังซื้อที่สูง ทัศนคติที่ดีต่อสินค้าไทย ซึ่งพบว่าตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียให้ความสนใจสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยหากตัดตลาดไต้หวันออกไปแล้ว ในมาเลเซียจะครองสัดส่วนถึง 40% จากตลาดการส่งออกทั้งหมด จึงได้วางแผนจัดตั้งบริษัทในประเทศมาเลเซียเร็วๆ นี้

ขณะที่รูปแบบการเข้าไปทำตลาดประเทศ อื่นๆ ในอาเซียนนั้นจะไม่แตกต่างกัน โดยเมื่อเป็นที่รู้จักมากขึ้นก็จะเข้าไปตั้งบริษัทในประเทศเพื่อการขนส่งที่สะดวกรวดเร็ว หรือเปิดสาขาใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของทีมสำรวจที่เข้าไปสำรวจความต้องการของลูกค้า พร้อมนำข้อมูลมาปรับใช้ทั้งด้านการออกแบบสินค้าใหม่และเลือกทำเลสาขาใหม่ ซึ่งมักจะเลือกจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว

ส่วนปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ซบเซานั้น มองว่าไม่กระทบต่อการทำธุรกิจมากนัก รวมถึงการเติบโตของธุรกิจที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเป็นหลักด้วย โดยปลายปีที่ผ่านมาจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ตลาดอาเซียนถือเป็นตลาดเปิดใหม่และเป็นกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น

ณัฐชยา เสริมว่า นอกจากการออกแบบที่สวยงาม ตรงกับการใช้งานแล้ว ธุรกิจยังให้ยังความสำคัญด้านบริการควบคู่กันไป ที่สร้างให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและกลับมาซื้อสินค้าซ้ำอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเปิดให้บริการ 6 สาขาในไทย ในตลาดนัดสวนจตุจักร 2 สาขา เอเชียทีค 2 สาขา สนามบินดอนเมือง1 สาขา และไดโนซอร์ แพลนเน็ต สุขุมวิท อีก 1 สาขา โดยในแต่ละ ปีมียอดขายเฉลี่ยกว่า 5-6 แสนใบ

พร้อมกล่าวถึงนโยบายการทำตลาดในอนาคต ที่จะมุ่งขยายสาขาหน้าร้านในต่างจังหวัด โดยจะเริ่มต้นที่ อ.หัวหิน ราวเดือน ต.ค.และขยายสาขาในกรุงเทพฯ เพิ่มอีก 2 สาขาในช่วงเดือน ก.ย.นี้ ส่วนในต่างประเทศวางเป้าหมายเตรียมตั้งบริษัทในมาเลเซียได้ภายในปีนี้ รวมทั้งวางกลยุทธ์เปิดตัวสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 8 รายการ/ปี

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายการทำตลาดธุรกิจโรงแรม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เป็นสาวกแบรนด์ BKK Original อีกด้วย โดยออกแบบห้องพักแต่ละห้องด้วยลวดลายบนกระเป๋าแต่ละแบบ และสไตล์ของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน รวมทั้งมีกิจกรรมต่างๆ แก่ผู้เข้าพัก โดยเตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือน มิ.ย.นี้

สำหรับแนวทางการทำธุรกิจของบริษัทนั้น ณัฐชยา บอกว่า ไม่ว่าจะประกอบธุรกิจใด ความจริงใจต่อลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และควรให้ความสำคัญกับทรัพย์สินทางปัญญา สนับสนุนให้คนไทยไม่ใช้สินค้าลอกเลียนแบบ เพราะการสนับสนุนสินค้าถูกต้องตามลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์ไทยจะทำให้ผู้ประกอบการมีกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ทั้งยังเป็นการผลักดันแบรนด์ไทยให้ก้าวไกลถึงตลาดโลกได้