โอกาสการลงทุน 6 เมืองศักยภาพเวียดนาม
เวียดนาม ยังเป็นประเทศที่เปิดกว้างรับการลงทุนจากทั่วโลก เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเศรษฐกิจของเวียดนามก็ยังขยายตัว 6-7% อยู่
โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล
เวียดนาม ยังเป็นประเทศที่เปิดกว้างรับการลงทุนจากทั่วโลก เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเศรษฐกิจของเวียดนามก็ยังขยายตัว 6-7% อยู่
"เวียดนามมีหลายเมืองที่มีพลเมืองเกิน 1 ล้านคน แต่ละเมืองก็มีจุดเด่นที่ต่างกัน โดยมีเวียดนามใต้เป็นศูนย์กลางธุรกิจ เนื่องจากมีตลาดขนาดใหญ่ และมีฐานการผลิตที่ดี ส่วนเวียดนามเหนือนั้น มีโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ หากผู้ประกอบการไทยศึกษาศักยภาพให้ดีก็จะสามารถมองเห็นถึงโอกาสและช่องทางธุรกิจที่จะเข้าไป" สนั่น กล่าว
สำหรับ 6 เมืองใหญ่ที่มีศักยภาพของเวียดนาม ได้แก่ โฮจิมินห์ เกิ่นเทอ เบียนหัว 3 เมืองทางใต้ที่เป็นเมืองอุตสาหกรรม เหมือนกับกรุงเทพฯ และปริมณฑล (สมุทรสาคร สมุทรปราการ) ของไทย ส่วนทางเวียดนามตอนเหนืออย่างเมือง ฮานอย และไฮฟอง ก็มีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะมีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดี และมีท่าเรือขนาดใหญ่ที่ไฮฟอง ซึ่งเหมาะกับการ นำวัตถุดิบจากจีนเข้ามาผลิตและส่งออก ขณะที่ทางตอนกลางของเวียดนาม ก็มีเมือง ดานัง เป็นศูนย์กลาง ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่อุตสาหกรรมการ ท่องเที่ยวเป็นหลัก ทำให้ธุรกิจโรงแรมมีโอกาสโตสูง
จากการที่เศรษฐกิจเวียดนามกำลังเติบโต จึงมีความต้องการสินค้าและบริการต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารจากประเทศไทยมีตลาดรองรับอยู่แล้วในเวียดนาม เพราะสินค้าไทยมีภาพลักษณ์คุณภาพที่ดี ราคาสมเหตุสมผลในสายตาชาวเวียดนาม
นอกจากนี้ เอฟดีไอในเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะนักลงทุนต่างต้องการแหล่งลงทุนทางเลือกอื่นนอกจากจีน ซึ่งเวียดนามก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะยังได้ทั้งสิทธิพิเศษทางภาษี (จีเอสพี) มีขนาดตลาดในประเทศใหญ่ และการค้าระหว่างเวียดนามและสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีธุรกิจจัดซื้อสินค้าจำนวนหนึ่งย้ายจากจีนเข้าสู่เวียดนามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นโอกาสของนักธุรกิจไทยที่จะตั้งโรงงานในเวียดนาม
สำหรับอุปสรรคในการเข้าไปลงทุนในเวียดนามสำหรับนักลงทุนไทยก็ยังมีอยู่บ้าง โดยเฉพาะต้องระวังเรื่องกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ทั้งจากรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น และเวียดนามกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ผู้ประกอบการไทยจึงต้องคำนึงถึงโลจิสติกส์ในซัพพลายเชนให้ดี ดังนั้นการเจรจาต่อรองขอสิทธิประโยชน์การลงทุนกับรัฐบาลเวียดนามจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ทั้งนี้ ในอุปสรรคก็มีโอกาสแฝงอยู่เช่นกัน เช่น การที่สถาบันการเงินไทยสนใจอยากเข้าไปเปิดสาขาในเวียดนามก็ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเวียดนามยังไม่เปิดให้ใบอนุญาต (ไลเซนส์) ขณะเดียวกันรัฐวิสาหกิจของเวียดนาม (เอสโออี) ก็เปิดเชิญชวนให้นักลงทุนไทยเข้าไปเทกโอเวอร์กิจการรัฐวิสาหกิจเพื่อหารายได้เข้าไปประเทศ เช่น วีนามิลล์ และอาปิโก (รัฐวิสาหกิจด้านเครื่องดื่ม) ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปต่อยอด