บินไทยบูมตลาดจับมือซีแอลเอ็มวีลงทุนการบินหนุนศักยภาพอาเซียน

นางสาริณี อังศุสิงห์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบิน เปิดเผยว่า ปริมาณการบินของประเทศไทยถือว่าเติบโตมากที่สุดในอาเซียนเฉลี่ย 10% ต่อปี หรือบางปีโตทะลุ 13% สูงกว่าปริมาณการเติบโตเฉลี่ยของภูมิภาคถึง 2 เท่า จากปัจจุบันมีการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 6.3% ต่อปี นอกจากนี้ประเทศไทยยังสามารถถือครองสัดส่วนปริมาณทางการบินในภูมิภาคได้มากที่สุดถึง 28%

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของปริมาณการบินในอาเซียนยังถือว่า มากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งโลกที่อยู่ 4.7% และคงอยู่ในช่วงขาขึ้น จึงมีศักยภาพในการขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีกอย่างต่อเนื่อง ส่วนด้านคู่แข่งในอาเซียนที่มีศักยภาพเติบโตทางการบินในอนาคตจะไปอยู่ที่ประเทศเวียดนามและเมียนมา เนื่องจากมีปัจจัยหนุนด้านประชากรที่มีรวมกันกว่า 140 ล้านคน ควบคู่ไปกับตลาดการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศที่มีการเติบโต ดังนั้น บวท.จะร่วมมือกับประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม เพื่อรักษาฐานการเติบโตของธุรกิจการบินทั้งด้านการลงทุนและแบ่งปันทรัพยากรทางการบินร่วมกัน ตลอดจนจัดทำสิทธิทางการบินให้ใช้ได้ร่วมกันอีกด้วย

ทั้งนี้ บวท.จะนำแนวทางความร่วมมือดังกล่าวเข้าร่วมหารือกับประเทศสมาชิกอาเซียนในการประชุมองค์กรวิทยุการบินระดับภูมิภาคที่จะจัดขึ้นในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือน พ.ค.นี้ ภายใต้สโลแกน Embracing Change หรือการพัฒนาการบินร่วมกันเพื่อรับมือการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ ในปี 2561 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมองค์กรวิทยุทางการบินระดับโลกอีกด้วย ซึ่งจะผลักดันต่อเนื่อง

นางสาริณี กล่าวต่อว่า การเติบโตทางการบินในภูมิภาคอาเซียนจะขยายตัวจนเต็มเพดานภายใน 15 ปีนับจากนี้ หลังจากนั้นปริมาณทางการบินจะเริ่มย้ายจากทวีปเอเชียและภูมิภาคอาเซียนไปเติบโตอย่างก้าวกระโดดในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างทวีปแอฟริกา

อย่างไรก็ตาม บวท.จะหารือกับกองทัพอากาศ (ทอ.) เพื่อร่วมกันจัดทำโครงการควบรวมน่านฟ้า โดยแบ่งปันน่านฟ้าเชิงพาณิชย์ และน่านฟ้าด้านความมั่นคง ให้สามารถใช้ร่วมกันได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อพัฒนาศักยภาพทางการบินของประเทศไทยและภูมิภาค

“ขณะนี้ได้ทำการจ้างที่ปรึกษาจากประเทศอังกฤษเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ทั้งความสามารถรองรับภาคพื้นดินและการรองรับภาคพื้นอากาศ เพื่อผลักดันให้ไทยก้าวสู่เป้าหมายรองรับปริมาณจราจรทางอากาศให้ได้ถึง 2.7 ล้านเที่ยว/ปี คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2561” นางสาริณี กล่าว

นอกจากนี้ ยังวางแนวทางทำงานบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมท่าอากาศยาน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย วิทยุการบินแห่งประเทศไทย การบินไทย สายการบินของชาติ กองทัพอากาศ และหน่วยงานอื่นใดที่เกี่ยวข้องในด้านกิจการบิน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานโลก เนื่องจากในทวีปยุโรปบางประเทศสามารถบริหารจัดการจราจรทางอากาศได้ดีกว่าบ้านเรามากแม้พื้นที่น้อยกว่า 2-3 เท่า