เจาะอุตฯแพทย์สปป.ลาว

พาณิชย์นำคณะบุกเจรจาธุรกิจ สปป.ลาว มุ่งเจาะกลุ่มสินค้าเครื่องมือแพทย์และผลิตภัณฑ์เภสัช พร้อมลุยกัมพูชา ฟิลิปปินส์ เวียดนามต่อ

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยขยายการค้าไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน กรมได้จัดกิจกรรมนำคณะผู้แทนการค้าสินค้าเครื่องมือแพทย์และผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ไปเจรจาการค้าที่ สปป.ลาว (กรุงเวียงจันทน์) เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2559 เนื่องจาก สปป.ลาว เป็นตลาดสำคัญของเครื่องมือแพทย์และผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ของไทยในกลุ่มอาเซียน

ทั้งนี้ ในปี 2558 ไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวไปยัง สปป.ลาว คิดเป็นมูลค่า 20.49 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการเจรจาการค้าครั้งนี้มีผู้ส่งออกไทยเข้าร่วม 20 บริษัท ประกอบด้วย ผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ 17 บริษัท ผู้ผลิตอุปกรณ์เภสัชภัณฑ์/ยา 3 บริษัท และมีผู้นำเข้าชาวลาวเข้าร่วมเจรจา 23 ราย มียอดสั่งซื้อภายใน 1 ปี รวม 367,500 เหรียญสหรัฐ โดยสินค้าที่ผู้นำเข้าลาวสนใจ ได้แก่ อุปกรณ์ทันตกรรม หลอด/เข็มฉีดยา ชุดให้ออกซิเจน ระบบน้ำสำหรับฟอกไต และอุปกรณ์ทำแผลแต่งแผล

นายวินิจ ฤทธิ์ฉิ้ม ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพ กล่าวว่า อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพมีการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ สปป.ลาวเป็นประเทศคู่ค้าที่มีศักยภาพในการขยายตลาด การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการเปิดลู่ทางให้แก่สินค้าของไทย ทำให้มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น และมีความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาการค้าในครั้งต่อไป โดยประเทศที่สนใจ ได้แก่ กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และรัสเซีย

น.ส.ยานี ศรีมีชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียงจันทน์ กล่าวว่า นอกจากจะมีการเจรจาธุรกิจแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญมาบรรยายให้ความรู้ผู้ประกอบการไทยเกี่ยวกับการลงทุนใน สปป.ลาว ทั้งเรื่อง “กฎหมายและภาษีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของนักธุรกิจไทยใน สปป.ลาว” โดย นายวราวุธ มีสายญาติ นายกสมาคมนักธุรกิจไทยใน สปป.ลาว “ภาพรวมสาธารณสุขลาว” โดย นาย บุญซาว เชียวหะวง หัวหน้ากลุ่มคุ้มครองยาหลวง กรมอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขลาว และ “ภาพรวมการค้าการลงทุนใน สปป.ลาว” โดย น.ส.วาลี เวตสะพงรองประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว ส่วนอุปสรรคทางการค้าใน สปป.ลาว เช่น กฎระเบียบการนำเข้าสินค้าที่จะต้องใช้ระยะเวลารอขึ้นทะเบียน สินค้าไทยราคาสูงกว่าสินค้าจีน เป็นต้น