posttoday

ภาวะผู้นำของสตรี

10 กรกฎาคม 2557

การรณรงค์บทบาทของสตรีในเวทีธุรกิจยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง

ดร.อัจฉรา จุ้ยเจริญ

กล่าวถึงภาวะผู้นำโดยรวมบ่อยแล้ว วันนี้ขอกล่าวเรื่องหญิงๆ บ้าง การรณรงค์บทบาทของสตรีในเวทีธุรกิจยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง นั่นอาจมาจากสถิติที่หน่วยงานต่างๆ ได้เก็บข้อมูลไว้

ข้อมูลต่างๆ ได้แสดงให้เห็นอัตราของผู้บริหารหญิงที่ยังคงมีน้อยกว่าผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด จำนวนประชากรโลก ณ ปี 2554 เท่ากับ 6,974 ล้านคน เป็นชายประมาณ 3,517.3 ล้านคน และหญิงประมาณ 3,456.8 ล้านคน

ในปีเดียวกัน จากการศึกษาขององค์กรที่ปรึกษาระดับนานาชาติหลายแห่ง พบว่า ผู้บริหารหญิงระดับกลางทั่วโลกเฉลี่ยมีแนวโน้ม ลดลง ในปี 2554 มีสัดส่วนอยู่ที่ 20% เท่านั้น ลดลงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 4%

จากประสบการณ์ตรงในวงการพัฒนาผู้บริหารที่ผ่านมา ดิฉันสอนเรื่องภาวะผู้นำและหลักสูตรด้านการบริหารให้กับผู้บริหารระดับกลางไปถึงระดับสูงด้วยตนเอง เฉลี่ยประมาณปีละหนึ่งพันคน

จะเห็นได้ว่าในกลุ่มผู้บริหารระดับกลางที่เข้ามาอบรม มีผู้ชายและ ผู้หญิงเท่าๆ กัน สำหรับระดับสูง จะเห็นได้ชัดว่ามีผู้หญิงน้อยลง กลุ่มที่ใช้การพัฒนาโดยการโค้ช ในปีนี้มีผู้บริหารหญิงมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่องค์กรทั่วไปในประเทศไทยเราให้โอกาสความก้าวหน้าทั้งผู้หญิงผู้ชายเท่าเทียมกัน

เมื่อกล่าวถึงความสามารถของสตรีในฐานะเป็นผู้นำ กลุ่มที่ปรึกษาองค์กร มาแชล โกลด์สมิท กรุ๊ป ใช้เวลากว่าห้าปี ในการศึกษาด้านความสามารถเชิงสมรรถนะของผู้นำสากล คือสมรรถนะที่ไม่ว่าจะไปนั่งบริหารอยู่ที่ประเทศใดก็ตามมักมีความสำเร็จ (Transglobal Leadership Competency)
 
สมรรถนะนี้ศึกษารวมถึงคุณลักษณะทั้งในด้านทักษะ ความรู้ และพฤติกรรมของบุคคล และได้เผยข้อมูลที่น่าสนใจในปี 2555 ว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่ตอบแบบสำรวจเป็นผู้หญิง และได้พบว่า คำตอบของทั้งหญิง และชาย แสดงถึงสมรรถนะในด้าน Transglobal Leadership เท่าๆ กัน โดยผู้หญิงมีข้อแตกต่างบางประการดังนี้

หนึ่ง ผู้หญิงมักประเมินความสามารถตนเองต่ำกว่าความเป็นจริง มากกว่าที่จะประเมินตนเองสูงกว่าความเป็นจริง สอง ผู้หญิงมักตอบแทนคุณงามความดีของผู้อื่นแบบปรับรูปแบบตามใจผู้รับ มากกว่าที่จะให้แบบมาตรฐานเดียวกันหมด สาม ผู้หญิงใช้การพัฒนาบุคลากรเป็น ฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันกลยุทธ์ มากกว่าใช้เทคโนโลยี

สี่ ผู้หญิงมีความมั่นใจในคนที่มีค่านิยมร่วมกัน มากกว่ามองที่ว่าคนนั้นปฏิบัติการงานอย่างไร ห้า ผู้หญิงมักคาดการณ์การแสดงออกและการกระทำของคนไว้ก่อนและเตรียมการรับมือ ไม่รอความประหลาดใจ หก ผู้หญิงมักให้ความเห็นอกเห็นใจ ถึงแม้งานจะออกมาไม่ตรงที่ต้องการ เจ็ด ในสถานการณ์ที่หนทางข้างหน้าไม่ชัดเจน ผู้หญิงมักแลกเปลี่ยนความรู้สึก หรือความไม่แน่ใจออกมา มากกว่าที่จะแสร้งรักษาภาพความสำเร็จของตนไม่ให้เสื่อมเสีย

พูดเรื่องแนวคิดไปแล้ว ก็ขอทิ้งท้ายด้านการวางตัวในธุรกิจให้หญิงเรายืนหยัดในการทำงานอย่างมั่นใจนะคะ ในเวทีธุรกิจที่เป็นสากล ผู้หญิงสามารถปรับตัวและต้องเข้าใจว่าผู้หญิงและผู้ชายเท่าเทียมกัน

ถึงแม้ปกติผู้หญิงอาจจะให้ผู้ชายเปิดประตูให้ แต่เมื่ออยู่ในวงธุรกิจ หากคุณเป็นเจ้าภาพ คุณควรเปิดประตูให้ลูกค้า หรือแขกชายผู้มาเยือน หากเราเป็นผู้เชิญเพื่อนร่วมธุรกิจชายไปทานอาหาร อย่าคาดหวังให้เขาออกค่าอาหารให้

เมื่อไปงานสร้างเครือข่ายต่างๆ ไม่จำเป็นต้องยืนรอให้ผู้ชายเข้ามาแนะนำตัว ให้มั่นใจในความเป็นนักธุรกิจ และเดินเข้าไปแนะนำตัว ได้เอง ศึกษาหาความรู้รอบๆ ตัวอยู่เสมอ เพื่อจะได้ใช้การสนทนา "Small Talk" ได้ราบรื่น ดั่งที่มีคำพูดหนึ่งที่น่าสนใจว่า "There is no big talk without small talk"