เร่งแก้ปมเขตศก.พิเศษ ก่อนปลุกเฟส 2 ไม่ขึ้น
แม้แผนจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนทั้งสองเฟส รวมทั้งหมด 10 จังหวัด จะประกาศและกำหนดพื้นที่ที่ชัดเจน
โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล
แม้แผนจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนทั้งสองเฟส รวมทั้งหมด 10 จังหวัด จะประกาศและกำหนดพื้นที่ที่ชัดเจน รวมถึงการแจกสารพัดสิทธิประโยชน์เพื่อดึงดูดนักลงทุน แต่สุดท้ายก็ยังไม่ตรงใจภาคเอกชนเท่าที่ควร ทำให้การขับเคลื่อนยังไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ทั้งๆ ที่เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
แผนเร่งรัดเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 2 จังหวัด คือ อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ภายในปี 2558 ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน นับถึงตอนนี้นักลงทุนที่เคยประกาศตัวว่าจะเข้าไปลงทุนยังไม่ได้ติดต่อเช่าพื้นที่เขตอุตสาหกรรมซึ่งเป็นที่ดินที่รัฐเตรียมไว้ แต่หากมองมุมกลับอาจเป็นเพราะเอกชนอยู่ระหว่างการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอก็ได้
นอกจากปัญหาสิทธิประโยชน์ที่ยังถูกใจนักลงทุนแล้ว ยังมีปัญหาการเข้าใช้พื้นที่รัฐที่จะเปิดให้เอกชนเช่า แม้ภาครัฐจะได้ใช้อำนาจตาม ม.44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 ถอนสภาพพื้นที่ป่าแล้วส่งมอบกรมธนารักษ์ดูแลและกำหนดอัตราค่าเช่าถูกระยะยาวไปแล้ว เพื่อแก้ปัญหาการปั่นราคาที่ดินที่พุ่งสูงเกินจริง แต่เวลานี้กลับติดปัญหามวลชนที่ได้เข้าครอบครองทำกินอยู่ก่อน และยืนยันไม่ยอมออกจากพื้นที่ จึงเป็นงานหนักที่รัฐบาลต้องเร่งทำความเข้าใจ
ขณะที่การเฟ้นหาที่ดินรัฐมาให้เช่าในเขตพัฒนาเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ก็มีปัญหาต้องสะสาง ทั้งที่ จ.กาญจนบุรี บริเวณด่านบ้านพุนํ้าร้อน แม้จะเป็นที่ดินที่ราชพัสดุ แต่ก็ต้องได้รับอนุญาตจากทหาร หรือกองทัพบก ส่วนที่ จ.นครพนม และเชียงราย ได้เสนอที่ดินเข้ามาหลายแปลง แต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ โดยเฉพาะที่ดินแปลงงามใกล้พื้นที่แม่สาย ติดถนนพหลโยธิน เป็นของโรงงานยาสูบที่ให้ชาวไร่หลายร้อยคนปลูกใบยาอยู่ ส่วนพื้นที่ อ.เชียงของ เป็นเขตป่าที่ชาวบ้านและเอ็นจีโอไม่ต้องการให้ถอนสภาพ เพราะไม่ต้องการให้มีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่
ต่างจากที่ จ.นราธิวาส ในพื้นที่ต้องการซื้อที่ดินเอกชน 2,200 ไร่ ที่ต้องต่อรองราคากัน โดยเจ้าของต้องการขายในราคาตลาด ส่วนทางการต้องซื้อตามราคาประเมินที่ดิน รวมทั้งยังเป็นปัญหาว่าจะใช้งบของหน่วยงานใดจัดซื้อ เพื่อมาปล่อยเช่าเอกชนเข้าทำกิจการ
สมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานสภาหอการค้าไทย มองว่า สิทธิประโยชน์ที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) กำหนด หลักๆ เบื้องต้นถือว่าเอกชนรับได้แต่ก็ยังไม่จูงใจ
“ประเด็นแรกที่ต้องเร่งรัด คือ ผลักดันผังเมืองเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว หรือให้เอกชนเห็นว่านอกจากพื้นที่รัฐแล้ว ในพื้นที่อื่นจะลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน เพราะตราบใดที่ผังเมืองไม่บังคับใช้ เอกชนจะไม่ซื้อที่ดิน และที่มีที่ดินอยู่แล้วก็ไม่สามารถขึ้นโครงการ หากผังเมืองและข้อกำหนดออกมาระบุว่าไม่สามารถทำได้ ก็จะเกิดความเสียหาย”
อีกเรื่องที่มีเสียงสะท้อนมากที่สุด คือ การให้สิทธิประโยชน์แก่เอกชนรายเล็กในพื้นที่ที่จะต้องมากกว่าเอกชนรายใหญ่หรือเอกชนต่างพื้นที่ รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติ เช่น ปลอดภาษี 5 ปี 8 ปี จะต้องไม่เท่ากันเพราะรายเล็กมีสายป่านน้อยกว่า ควรพิจารณาปลอดภาษียาวกว่านั้น หรือมากกว่า 8 ปี รัฐจะต้องพิจารณาสิทธิประโยชน์ของแต่ละเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันโดยเฉพาะกิจกรรมที่จะลงทุน
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะต้องลดเป้าวงเงินลงทุนให้ต่ำ เพื่อช่วยเอกชนรายย่อยสามารถลงทุนได้ รวมทั้งการตั้งศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส หรือศูนย์บริการที่เดียวแบบเบ็ดเสร็จทุกจังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และต้องมีผู้แทนบีโอไอ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้คำปรึกษาและตอบคำถามเอกชนได้ เพราะปัจจุบันกลับกลายเป็นศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย เข้าไปตั้งศูนย์ดำเนินการเสียเอง ซึ่งผิดฝั่งผิดฝาและไม่สามารถให้คำปรึกษากับนักลงทุนได้อย่างตรงจุด
นอกจากนี้ ควรจะต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์และจัดโรดโชว์ให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติสนใจ คือ ญี่ปุ่นและไต้หวัน ที่จะลงทุนด้านอุตสาหกรรมเกษตรและเสื้อผ้า ทั้งในเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จ.ตาก และสระแก้ว และควรสนับสนุนให้สามารถใช้แรงงานต่างด้าวไปเช้าเย็นกลับได้
สมพร สิริโปราณานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า รัฐจะต้องเร่งลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยเร็ว ขณะเดียวกันมองว่ามาตรการการลดหย่อนภาษียังแรงไม่พอ ทำให้เอกชนไม่มาลงทุน ขณะเดียวกันจะต้องเร่งโรดโชว์ ซึ่งขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดจะจัดโรดโชว์ในประเทศมาเลเซียเพื่อดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา
เช่นเดียวกับ ภมร เชาว์ศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ต้องการแรงงานต่างด้าวแบบไปเช้าเย็นกลับ คาดว่าจะประชุมเร็วๆ นี้ว่าจะอนุมัติหรือไม่ รวมถึงเสนอขอสนามบินเลิงนกทาเป็นสนามบินพาณิชย์เพื่อกระตุ้นนักลงทุนให้มาลงทุนยังเขตเศรษฐกิจมุกดาหาร
แม้ว่าหลักการและเป้าหมายของการกำหนดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนของรัฐบาลจะเป็นเรื่องดีที่ต้องการใช้เป็นฐานการผลิตและส่งออกไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังขยายตัวไปพร้อมๆ กับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อทดแทนการส่งออกที่หดตัว
อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะประเทศเพื่อนบ้านเองก็มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นบริเวณชายแดนเช่นกัน อีกทั้งยังมีการจัดตั้งมาก่อนหน้าไทย รวมทั้งมีการลงทุนเกิดขึ้นจริงแล้ว และยังให้สิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจในการลงทุนอย่างเต็มที่ เพราะเป็นประเทศที่กำลังเร่งพัฒนาเศรษฐกิจ จึงต้องการทุนต่างชาติเข้ามาสนับสนุน
ปัจจัยเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุทำให้เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนของไทยยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่มีความพยายามให้สิทธิประโยชน์จูงใจการลงทุนอย่างเต็มที่
ดังนั้น ประเทศไทยอาจจะต้องทบทวนการดำเนินนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยจะต้องพัฒนาควบคู่ไปกับเขตเศรษฐกิจพิเศษของเพื่อนบ้าน เพราะต่างคนต่างเดิน สุดท้ายเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่ไทยหวังจะให้เป็นพระเอกในการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจะไม่ตอบโจทย์ดั่งที่วาดหวังไว้


