มินิคันทรีแมน เจนฯ2 โตขึ้นสนุกขึ้น

สัปดาห์นี้อยู่กับรถยนต์อีกคันหนึ่งที่ถือได้ว่ามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นของตัวเองมากๆ อย่าง “มินิ คันทรีแมน” รุ่นใหม่ ซึ่งพัฒนามาสู่เจเนอเรชั่นที่ 2 แล้ว พร้อมกับความเป็นผู้ใหญ่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของ มินิ ในอดีตที่เป็นกลุ่มยัง เจเนอเรชั่น ที่วันนี้พัฒนาขึ้นเป็น ยัง แฟมิลี่ ผลิตภัณฑ์จึงต้องปรับให้ตรงกับความต้องการ

ปัจจุบันสัดส่วนผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็นกลุ่ม 3 ประตู และ 5 ประตู ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 40% และ 60% ตามลำดับ ของยอดขายรวม โดยยอดขายรวม มินิ 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) อยู่ที่ 258 คัน ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจาก มินิ คันทรีแมน ที่ถือเป็นรถธงที่สร้างยอดขายหลักอยู่ในช่วงรันเอาต์

 

สำหรับ มินิ คันทรีแมน รุ่นใหม่นี้เป็นรุ่นนำเข้าทั้งคันจากต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้ราคาขายเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าที่เริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท เป็นเริ่มต้นที่ 2.39 ล้านบาท โดยมีปริมาณการผลิตทั่วโลกของรถยนต์รุ่นดังกล่าว

ในช่วงปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3 แสนคัน จึงถือว่าเป็นปริมาณที่คุ้มค่าการผลิตเพื่อส่งออกและยังสามารถทำต้นทุนการผลิตที่ดีเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ และสามารถไปยังทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ออปชั่นใน มินิ คันทรีแมน ใหม่ ที่เพิ่มขึ้นมาถือได้ว่าเปรียบเทียบกับราคาแล้วถือได้ว่ามีความคุ้มค่าในราคาไม่ถึง 3 ล้านบาท

ขณะที่ ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสเอวี) ขยายตัวยิ่งขึ้นตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แต่ มินิ ยังสามารถตอบโจทย์ได้ด้วย 3 เอกลักษณ์เด่นสำคัญ ได้แก่ การออกแบบ ความอเนกประสงค์ และความสนุกสนานในการขับขี่

ล่าสุดจึงได้จัดกิจกรรมสัมผัสสมรรถนะของ “มินิ คันทรีแมน” รุ่นใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติแบบสบายๆ ในสไตล์ “ADD STORIES” เติมเรื่องราวและประสบการณ์ ที่มีความหมายให้กับชีวิต บนเส้นทาง ประจวบคีรีขันธ์-กรุงเทพฯ

“มินิ คันทรีแมน” รุ่นใหม่ ได้รับการพัฒนาจากรถยนต์ขนาดเล็ก ไปสู่รถยนต์อเนกประสงค์ พรีเมียม คอมแพ็กในรูปแบบ “Sport Activity Vehicle” ที่ยังคงให้ความรู้สึกแบบ “Go-Kart Feeling” อีกทั้งดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกและภายใน รวมถึงเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มที่รักในการเดินทาง ชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และใช้งานในชีวิตประจำวันสำหรับ การขับขี่ในเมือง

เครื่องยนต์ของมินิ คันทรีแมน อยู่ที่เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-4,300 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 16 กิโลเมตร (กม.)/ลิตร ระดับการปล่อยก๊าคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) อยู่ที่ 148 กรัม/กม. ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ส่วนการตกแต่งภายใน ยังนำคอนเซ็ปต์ของพื้นผิวที่เรียบเนียน มารวมเข้ากับการตกแต่งภายในห้องโดยสารเพื่อสร้างลุคที่สะอาดตาและเฉียบคม อาทิ ไฟ LED ที่แต่งแต้มห้องโดยสารเพื่อสร้างความหลากหลายอารมณ์แห่งการขับขี่ และพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง หน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว บริเวณกลางแผงคอนโซลของ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม โฉมใหม่ มาพร้อมระบบสัมผัส (ทัชสกรีน) เป็นครั้งแรก ซึ่งทำหน้าที่เป็นจอแสดงผลข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบนำทาง (Navigation) ข้อมูลของตัวรถ ความบันเทิง และโทรศัพท์

นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น MINI Country Timer ที่ช่วยตรวจจับและแสดงข้อมูลขณะขับขี่บนพื้นถนนที่ท้าทาย และ MINI Connect ed ที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในยามเดินทาง แสดงพิกัดของรถ และข้อมูลต่างๆ ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

พวงมาลัยหนังแท้แบบมัลติฟังก์ชั่นเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มากับตัวรถ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมความสะดวก สบายด้วยฟังก์ชั่น Easy Opener ให้สามารถควบคุมการเปิดปิดฝากระโปรงรถเพียงใช้เท้าจ่อบริเวณใต้กันชนท้าย เมื่อมีกุญแจรถอยู่กับตัวเท่านั้น หรือสามารถเปิดด้วยปุ่มด้านประตูข้างคนขับและปิดด้วยปุ่มที่ฝากระโปรงท้าย Picnic Bench บริเวณช่องเก็บสัมภาระด้านท้ายของมินิ คูเปอร์ คันทรีแมน และ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน โฉมใหม่ มี MINI Picnic Bench ซึ่งสามารถกางออกเป็นที่นั่งปิกนิกสำหรับสองคนได้

ทั้งหมดนี้ทำให้ มินิ คันทรีแมน ใหม่ มีภาพลักษณ์ที่ดูโตขึ้นทั้งสมรรถนะและดีไซน์ทำให้ความสดใหม่น่าสนใจขึ้นมากเลยทีเดียว สอดคล้องไปกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เติบโตขึ้นคู่กันไป สนนราคาขายอยู่ที่ 2.39-2.99 ล้านบาท