"เอ็มจี จีเอส" ทางเลือกของคนใจรัก

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

ถือเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่นอกเหนือจากรถยนต์นั่งของ บริษัท เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย สำหรับ เอ็มจี จีเอส ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเภทรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี) และมีการเปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

การแข่งขันในตลาดเอสยูวีดูเหมือนจะดุเดือดเข้มข้นยิ่งขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ เพราะด้วยเหตุผลที่ว่าผู้บริโภคในกลุ่มนี้ยังคงมีกำลังซื้อสูงอยู่ เหล่าผู้ผลิตรถยนต์จึงจับจ้องมาที่ตลาดเอสยูวีโดยเฉพาะในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ตลาดรถยนต์ประเภทอื่นชะลอตัวบ้าง ทรงตัวบ้าง เติบโตต่ำบ้าง อาทิ ตลาดรถยนต์นั่ง เป็นต้น

ล่าสุด เอ็มจีจึงได้จัดกิจกรรมให้ได้ร่วมสัมผัสสมรรถนะบนเส้นทางกรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางกว่า 600 กม. ซึ่งสภาพเส้นทางที่ทีมงานวางไว้สามารถแสดงให้เห็นศักยภาพได้ดีพอสมควร

เริ่มต้นที่รูปลักษณ์การออกแบบของเอสยูวีคันนี้ ที่ว่าไปก็ไม่แน่ใจที่จะนำไปเปรียบเทียบความใกล้เคียงกับอะไรดีเพราะความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หาใครเทียบได้ยาก โดยเฉพาะฝากระโปรงหน้าที่มีมิติเส้นทางนูนเด่นขึ้นมารับกับโลโก้สัญลักษณ์ พร้อมไฟหน้าและไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (เดย์ไทม์รันนิ่งไลต์) ที่ดูโฉบเฉี่ยวไม่น้อย

เมื่อไล่เรียงขึ้นมามีแร็กหลังคาพร้อมเชื่อมต่อติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ อาทิ กล่องเก็บของ ขาตั้งจักรยาน เป็นต้น กระทั่งด้านหลังที่มีลักษณะตัดตรงเล่นเส้นสายรายละเอียด มีขนาดความสูงมากกว่าความยาว ซึ่งดูโดยรวมแล้วก็แปลกตาไปอีกแบบ

สำหรับภายในห้องโดยสารดูมีความล้ำสมัย ดูเหลี่ยมคมมีมิติพร้อมให้สีสันเปียโนแบล็กตัดกับสีเงินเมทัลลิก ดูออกแนวอวกาศนิดๆ ซึ่งตำแหน่งการวางอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกชนิดเหมาะมือควบคุมได้ง่ายที่คอนโซลหน้าซึ่งตำแหน่งที่นั่งและทัศนวิสัยการมองเห็นชัดเจนได้รอบคันและคำนวณระยะการเลี้ยวได้ง่าย

ด้านเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้าที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500-4,000 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 8.2 วินาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

สำหรับช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงก์พร้อมเหล็กกันโคลง พร้อมระบบความปลอดภัย 13 อย่าง อาทิ ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง เป็นต้น ซึ่งระบบความปลอดภัยหลายชนิดเป็นระบบที่อยู่ในรถยนต์เอสยูวีระดับพรีเมียมแต่มีในรถเอสยูวีคันนี้เช่นกัน

อารมณ์การขับขี่ต้องกล่าวเลยว่ามีบุคลิกเฉพาะตัวมาก ต้องปรับตัวให้เข้ากันพอสมควร น้ำหนักพวงมาลัยอาจดูเบาไปนิดแต่ก็พอจะเข้าใจได้ที่อยากทำให้ควบคุมง่าย แต่สำหรับคนที่ต้องการความหนักแน่นอาจดูเบามือไปสักนิด ถ้าถามถึงการตอบสนองของเครื่องยนต์ต้องบอกเลยว่าช่วงความเร็วต่ำอาจดูไม่ทันใจ แต่เมื่อติดลมบนไปแล้วไหลลื่นดี ส่วนคันเร่งต้องระวังเล็กน้อย เพราะเบาไปนิดแตะน้อยแต่มาล้นเกิน ปรับตัวสักนิดคงเข้าที่เข้าทาง

ด้านช่วงล่างโดดเด้งเร้าใจ อ่านไม่ผิด!! โดดเด้งจริงๆ มีอาการโยนตัวพอสมควรต้องใช้ความระมัดระวังสักนิด แต่ก็ได้ความนุ่มนวลและสบายในการเดินทางถือว่าดีใช้ได้เลยทีเดียว

ส่วนระบบอินคาเน็ตที่พัฒนาร่วมกับ ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือว่าเป็นระบบที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะสามารถโทรเข้า-ออก และการรับส่งข้อความ หรือแม้กระทั่งการแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตภายในตัวรถ พร้อมระบบหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบเครื่องเสียงลำโพง 8 ตัว เป็นระบบความบันเทิงที่มีมาในรถยนต์คันนี้

สรุปสุดท้าย เอ็มจี จีเอส ที่มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 1.21-1.31 ล้านบาท เมื่อเทียบกับความคุ้มค่าที่มีมาให้ก็พอประมาณ หากแต่ถ้าให้เทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันยังคงต้องบอกว่าเมื่อเปรียบเทียบแล้วอาจมีราคาที่สูงกว่าคู่แข่งอยู่บ้าง และในตลาดเอสยูวีที่ร้อนแรงเวลานี้มีให้เลือกอีกเพียบ ดังนั้นแล้วคงเป็นทางเลือกสำหรับคนใจรักแบรนด์นี้จริงๆ