posttoday

เบนซ์-บีเอ็มฯ เปิดเกมรุก ขยายปลั๊ก-อิน ไฮบริด

01 พฤษภาคม 2560

ปี 2560 ถือเป็นปีที่จะมีจุดเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด จากการสนับสนุนของรัฐบาล

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

การสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยของรัฐบาลที่ประกาศออกมาเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2560 สร้างกระแสความมั่นใจต่อการเดินหน้ากำหนดเทคโนโลยีของรัฐบาลต่อผู้ผลิตรถยนต์ได้ในระดับหนึ่ง

หากแต่รายละเอียดต่างๆ ทั้งเงื่อนไขข้อกำหนดการลงทุนและเป้าหมายโครงการนี้ ที่ผู้ผลิตและผู้สนใจลงทุนจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นยังไม่มีการประกาศออกมา จึงทำให้ผู้ประกอบการต่างๆ รอความชัดเจนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน

เบื้องต้นไม่เพียงการประกาศสนับสนุนด้านผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้มีการสนับสนุนในแง่อุตสาห กรรมสนับสนุน เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อสร้างความครบวงจรในด้านการผลิตในประเทศ

แต่ในอีกมุมหนึ่งของผู้ประกอบการที่มองเห็นแนวโน้มหรือเทรนด์เทคโนโลยีของโลกและมีความพร้อมที่จะนำเสนอเทคโนโลยีก่อนการไปสู่เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเทคโนโลยีไฮบริด หรือเทคโนโลยีปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ

โดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์จากค่ายยุโรปคู่ฟันคู่เหวี่ยงตลอดกาลอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ กับบีเอ็มดับเบิลยู ที่วันนี้มองเห็นทิศทางเทคโนโลยีไปในทางเดียวกัน จึงต่างเดินหน้าแผนธุรกิจของตนเองเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์เทคโนโลยีโลก พร้อมกำหนดเป้าหมายและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยให้เป็นไปตามทิศทางเทคโนโลยี ซึ่งการตอบรับของผู้บริโภคต่อเทคโนโลยีดังกล่าวมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างปลั๊ก-อิน ไฮบริด ลงสู่ตลาดมาช่วงระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบัน

ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปี 2560 ถือเป็นปีที่จะมีจุดเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด จากการสนับสนุนของรัฐบาลทั้งด้านการผลิตรถยนต์ ผลิตแบตเตอรี่ และการสนับสนุนด้านการขยายโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จไฟฟ้าในพื้นที่ต่างๆ

ทั้งนี้ บริษัทมีความมั่นใจที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่เรียกว่า อิเล็กทริคอิทิลิเจนต์ บาย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งมีความหมายถึงเทคโนโลยีไฟฟ้าภายในรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยเทคโนโลยีที่บริษัทโฟกัสคือ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ในรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ปัจจุบันนี้มีจำนวน 3 รุ่นหลัก ได้แก่ ซี-คลาส, เอส-คลาส และจีแอลอี พร้อมกันนี้บริษัทยังมีการพิจารณาถึงการขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าเข้าสู่ศูนย์จำหน่ายและบริการของบริษัทในอนาคต

ขณะที่ กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า เทคโนโลยีปลั๊ก-อิน ไฮบริด เป็นจุดเชื่อมต่อเทคโนโลยีที่จะก้าวไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถึงแม้วันนี้ความชัดเจนต่างๆ จะยังไม่ครบถ้วนภายหลังการประกาศมติ ครม. แต่บริษัทได้ติดตามและรอดูรายละเอียดที่จะออกมาอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าการสนับสนุนดังกล่าวเป็นการเริ่มต้นการสร้างตลาดเพื่อนำไปสู่การผลิตของผู้ผลิตรถยนต์รายต่างๆ ในอนาคต ส่วนแผนการลงทุนของบริษัทที่เล็งเห็นทิศทางของเทคโนโลยีดังกล่าวมีแผนลงทุนผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ของบีเอ็มฯ ในประเทศไทยช่วงปี 2561 และจะเริ่มผลิตได้ใน 1-2 ปีจากนั้น โดยปัจจุบันมีการนำเข้าแบตเตอรี่จากประเทศเยอรมนี

“การประกอบแบตเตอรี่ในประเทศ ไทยของบีเอ็มฯ ส่งผลในการเพิ่มศักยภาพการผลิตรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ในประเทศไทยเป็นหลัก รวมถึงการซัพพอร์ตการส่งออกไปยังโรงงานผลิตที่ต่างๆ ของบีเอ็มฯ ทั่วโลก”กฤษฎา กล่าว

สำหรับปัจจุบันบริษัทมีรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด อยู่ 4 รุ่น และในปีนี้มีแผนจะแนะนำเพิ่มอีกอย่างน้อย 1 รุ่น ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการขายรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ขึ้นเป็น 15% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5% ของยอดขายรวม

จากทิศทางการสนับสนุนของรัฐบาลและการเดินหน้าของผู้ผลิตที่มองเห็นทิศทางเทคโนโลยี จึงน่าจับตาการประกาศรายละเอียดของรัฐอย่างเป็นทางการหลังจากนี้ว่าจะสามารถดึงดูดผู้ประกอบการให้เกิดการลงทุนจริงได้มากน้อยแค่ไหน