ยกเว้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้า13ปี

คลังจับมือบีโอไอเร่งคลอดเกณฑ์ลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หวั่นถูกคู่แข่งชิงตัดหน้า

เมื่อเร็วๆ นี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (BEV) ประกอบด้วย คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กระทรวงอุตสาหกรรมและกรมสรรพสามิต เพื่อกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดแพ็กเกจมาตรการสนับสนุนรวมเป็นชุดเดียวกัน และเตรียมจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในเดือน มี.ค.นี้

สำหรับการประชุมดังกล่าวทางกระทรวงการคลังต้องการเร่งรัดให้มีมาตรการดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนได้มากขึ้น และรัฐบาลก็ต้องการเร่งมาตรการเงื่อนไขที่ดึงดูดผู้ประกอบการรถยนต์ BEV ให้เร็วที่สุด เพราะคู่แข่งทั้งประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ก็มีความต้องการดึงอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเข้าไปลงทุนในประเทศเช่นกัน ซึ่งหากมาตรการสนับสนุนของไทยล่าช้าและไม่โดนใจจะทำให้ไทยถูกแย่งนักลงทุนไปได้

ทั้งนี้ มาตรการสนับสนุนหลักๆ นักลงทุนจะได้รับการสนับสนุนจากบีโอไอยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี บวกอีก 5 ปี รวมเป็น 13 ปี เนื่องจากเป็น 1 ใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้การสนับสนุนเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ของเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ในระดับสูง

นอกจากนี้ หลังจากได้รับการอนุมัติจะให้เวลาผู้ประกอบการลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตและชิ้นส่วน 2 ปี โดยในช่วงนี้จะให้นักลงทุนนำรถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จรูปทั้งคันเข้ามาจำหน่ายในไทยได้ โดยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต

อย่างไรก็ตาม ยังมีเงื่อนไขในการลงทุนว่าผู้ประกอบการที่จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีจากบีไอไอ จะต้องเข้ามาตั้งโรงงานแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าในไทยด้วย เพราะถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญและเป็นหัวใจของรถยนต์ไฟฟ้า และเป็นการผลิตที่ต้องใช้เทคโนโลยีสูง หากไม่ทำตามเงื่อนไขก็จะไม่ได้สิทธิประโยชน์

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ส่วนประกอบที่สำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า ประกอบด้วย แบตเตอรี่ มอเตอร์ ระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้า และแผงการควบคุมรถยนต์ ซึ่งกรมสรรพสามิตเห็นว่าแบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนที่สำคัญ จึงมีเงื่อนไขให้นักลงทุนต้องมาผลิตในประเทศไทย เพื่อใช้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย และส่งให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคและของโลกต่อไปได้ด้วย