อี-เพย์เมนต์บุกเอเชีย จับเทรนด์ตลาดเกิดใหม่
ตลาดดิจิทัลเพย์เมนต์หรือการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลต่างๆ กำลังเข้ามาขยายตัวในตลาดเอเชียแปซิฟิก หลังความนิยมการชำระเงินออนไลน์ในภูมิภาคดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้น
โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์
ตลาดดิจิทัลเพย์เมนต์หรือการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลต่างๆ กำลังเข้ามาขยายตัวในตลาดเอเชียแปซิฟิก เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย และจีน หลังความนิยมการชำระเงินออนไลน์ในภูมิภาคดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้น
อินเดียนับเป็นตลาดด้านดิจิทัลเพย์เมนต์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยประชาชนนิยมการชำระเงินในรูปแบบดังกล่าวมากขึ้น หลังรัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกใช้ธนบัตร 500 และ 1,000 รูปี เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้เงินสดขาดแคลน
เงินผ่านโทรศัพท์มือถือ หลังทรูคอลเลอร์เป็นที่นิยมอย่างมากในอินเดียและมีผู้ใช้มากกว่า 150 ล้านคนในอินเดีย เทียบกับทั่วโลกที่ 250 ล้านคน ทั้งนี้ ทีแรกทรูคอลเลอร์เข้าไปในอินเดียในฐานะผู้ให้บริการยืนยันตัวตนผ่านหมายเลขโทรศัพท์และตรวจสแปม
เพย์พัลปรับกลยุทธ์
เพย์พัลผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์รายใหญ่ของโลกขยายความเป็นหุ้นส่วนกับวีซ่าผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่ไปยังเอเชียแปซิฟิก นอกเหนือจากสหรัฐ โดยความเป็นหุ้นส่วนดังกล่าวจะช่วยให้ร้านค้าปลีกรายย่อยซึ่งรับชำระบัตรเครดิตของวีซ่าสามารถรับชำระเงินผ่านเพย์พัลได้ ขณะที่ผู้ใช้บัญชีเพย์พัลก็สามารถใส่เงินจากบัญชีเพย์พัลเข้าในบัญชีของวีซ่าที่ชื่อ วีซ่าไดเรกต์ ได้
ดังนั้น ความเป็นหุ้นส่วนดังกล่าวจะช่วยให้ธนาคารที่ออกบัตรวีซ่ามีทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น ด้วยการเสนอการชำระเงินผ่านเพย์พัลและยังกระตุ้นให้ร้านค้าปลีกรายย่อยหันมาเปิดรับเพย์พัลมากขึ้น แม้ในปัจจุบันมีผู้ใช้เพย์พัลในเอเชียแปซิฟิกมากถึง 200 ล้านคน แต่เพย์พัลประสบปัญหาการร้องเรียนจากลูกค้าที่ไม่สามารถใช้เพย์พัลได้เต็มที่จากความไม่แพร่หลาย
จิม มาแก็ต หัวหน้าฝ่ายชำระเงิน ผลิตภัณฑ์ และวิศวกรรมของเพย์พัล กล่าวว่า เพย์พัลกำลังพยายามเพิ่มฐานลูกค้าในตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดียและอินโดนีเซีย ซึ่งในปัจจุบันแม้ประชากรจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงบริการของธนาคาร แต่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ โดย 1 ใน 3 ของธุรกรรมทั้งหมดของเพย์พัลเป็นการชำระเงินด้วยโทรศัพท์มือถือ
สำหรับอินโดนีเซียปัญหาการเข้าถึงธนาคารส่งผลให้บริการชำระเงินผ่านจุดบริการชำระเงินต่างๆ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยแกร็บผู้ให้บริการไรด์-แชริ่ง ตกลงเข้าซื้อ คูโด สตาร์ทอัพด้านบริการชำระเงินในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า มูลค่าการเข้าซื้อดังกล่าวอยู่ที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3,500 ล้านบาท)
กังวลความปลอดภัย
จีนเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับดิจิทัลเพย์เมนต์ โดยมียอดชำระเงินออนไลน์เพิ่มขึ้นจาก 12 ล้านล้านหยวน (ราว 60 ล้านล้านบาท) ในปี 2015 เป็น 19 ล้านล้านหยวน (ราว 95 ล้านล้านบาท) เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่จากข้อมูลของบิ๊กดาต้า รีเสิร์ชในกรุงปักกิ่ง พบว่ายอดชำระเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือปรับขึ้นถึง 200% ส่งผลให้จีนกลายเป็นประเทศหนึ่งที่มุ่งหน้าเข้าสู่สังคมไร้เงินสด
อย่างไรก็ตาม ความกังวลด้านความปลอดภัยเริ่มเพิ่มมากขึ้นในจีน หลังประสบกรณีหลอกลวงหลายครั้ง โดยหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า ล่าสุดเกิดกรณีเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงคิวอาร์โค้ด ที่แฝงด้วยไวรัสและขโมยข้อมูลของผู้ใช้บริการ ทั้งข้อมูลในสมาร์ทโฟนและบัญชีธนาคาร ซึ่งในมณฑลกวางตุ้งมีการขโมยเงินด้วยวิธีดังกล่าวมากถึง 90 ล้านหยวน
หลิวชิงเฟิง ประธานของไอฟลายเท็ค ผู้ให้บริการคลาวด์เซอร์วิส เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน 23% ของไวรัสโทรจันมาจากคิวอาร์โค้ดซึ่งยากต่อการตรวจจับ เนื่องจากผู้ใช้ไม่สามารถแยกแยะของจริงและของปลอมด้วยตาเปล่า