posttoday

เฟดรอท่าไม่ขึ้นดอกเบี้ย เงินเอเชียแข็งค่ากดดันบีโอเจ

29 กรกฎาคม 2559

เฟด คงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้หลังการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่มีการส่งสัญญาณระยะเวลาในการขึ้นดอกเบี้ยที่แน่ชัด ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าเอเชีย

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้หลังการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่มีการส่งสัญญาณระยะเวลาในการขึ้นดอกเบี้ยที่แน่ชัด ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าเอเชีย โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่และสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างค่าเงินเยนจนแข็งค่าขึ้น ซึ่งกดดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ดำเนินมาตรการเพิ่มเติม

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) นำโดยเจเน็ต เยลเลน ผู้ว่าการเฟด มีมติ 9 ต่อ 1 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ 0.25-0.50% หลังการประชุมเมื่อวันที่ 26-27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเฟดระบุในแถลงการณ์ ว่า การจ้างงานในเดือน มิ.ย. ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 5 ปี เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วยการใช้จ่ายครัวเรือนที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคเอกชนยังคงอ่อนแอและอัตราเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% เนื่องจากราคาน้ำมันถูก

"ความเสี่ยงในระยะสั้นปรับตัวลดลงไปแล้ว" เฟดระบุในแถลงการณ์ พร้อมระบุอีกด้วยว่าจะจับตาการเคลื่อนไหวของตลาดทุนและเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด

ด้าน แคธี โจนส์ หัวหน้านักกลยุทธ์จากชาร์ลส์ ชวาบ บริษัทโบรกเกอร์สัญชาติอเมริกัน เปิดเผยว่า มีแนวโน้มที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามเฟดไม่อยากจะให้สัญญาณที่ผูกมัดตัวเองในอนาคต และเฟดก็มีความมั่นใจในการขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม แม้เฟดจะระบุความเสี่ยงในระยะสั้นปรับตัวลงไป แต่ถ้อยแถลงดังกล่าวไม่ได้ระบุระยะเวลาที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย และแม้เฟดจะเปิดกว้างในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ก.ย. ก็ยังไม่มีความแน่ชัด โดยตลาดคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นเพราะเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ที่ 26% ขณะที่ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ลดลงจาก 49% ก่อนเฟดเปิดเผยแถลงการณ์เป็น 45%

ทุนไหลเข้าเอเชียดันค่าเงินแข็งค่า

ภายหลังการเปิดเผยของเฟด ดัชนีค่าเงินตลาดเกิดใหม่เอ็มเอสซีไอปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ นำโดยค่าเงินวอนที่แข็งค่าขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่ด้านธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ปรับค่ากลางอ้างอิงค่าเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้นอยู่ที่ 6.6597 หยวน/เหรียญสหรัฐ ซึ่งแข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นไปอยู่ในระดับ 104 เยน/เหรียญสหรัฐ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ในการซื้อขายที่ตลาดโตเกียว เมื่อเทียบกับระดับ 105 เยน/เหรียญสหรัฐ ของเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงหลังนายกรัฐมนตรี  ชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยโครงการ งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 28 ล้านล้านเยน  (ราว 8.4 ล้านล้านบาท) ส่งผลให้ดัชนีนิกเกอิ ปิดตลาดวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ในแดนลบ 1.13%

นอกจากนี้ ค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นดังกล่าวแสดง ให้เห็นถึงเงินทุนที่ไหลเข้ามาในเอเชีย สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (ไอไอเอฟ) เปิดเผยว่า เงินทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่เกือบ 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 8.75 แสนล้านบาท) ในเดือน ก.ค.  ปรับตัวขึ้นจาก 1.33 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.65 แสนล้านบาท) เมื่อเดือน มิ.ย. โดยตลาด เกิดใหม่ในเอเชียมีการดึงดูดเงินทุนมากที่สุดที่ 1.91 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 6.68 แสนล้านบาท)  ในเดือน ก.ค.

ตลาดกดดันบีโอเจกระตุ้นเพิ่ม

ซิตี้แบงก์เปิดเผยผลสำรวจลูกค้าและสถาบันการเงิน พบว่า 80% คาดค่าเยนจะแข็งค่าขึ้นเทียบเหรียญสหรัฐมากกว่า 3% หากบีโอเจยังคงมาตรการในวันที่ 28 ก.ค.นี้ และไม่ส่งสัญญาณใดๆ ในการ กระตุ้นเพิ่มหลังการประชุมเดือน ก.ย. ในขณะที่ มากกว่า 30% คาดการณ์ว่าค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลงมากกว่า 4%

โนบุเทรุ อิชิฮาระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่น เปิดเผยภายหลังอาเบะประกาศงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 28 ล้านล้านเยน (ราว 8.4 ล้านล้านบาท) ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ที่ 20 ล้านล้านเยน (ราว 6 ล้านล้านบาท) ว่า บีโอเจและฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ ควรตัดสินใจให้สอดคล้องกับการประกาศของอาเบะ

"ผมคิดว่าคนของบีโอเจจะนำมาตรการนี้ไปพิจารณาและตัดสินใจอย่างเหมาะสม ผมคิดว่าคุโรดะเข้าใจดีว่าโลกกำลังจับตามองเราอยู่" อิชิฮาระ กล่าว

สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ ทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บีโอเจควรพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้ถึงเป้าหมายที่บีโอเจตั้งไว้ที่ 2% โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า อาโสะกำลังกดดันให้บีโอเจผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น

ด้าน คริส เวสตัน นักกลยุทธ์ของไอจี กรุ๊ป บริษัทเทรดเดอร์ สัญชาติอังกฤษ เปิดเผยว่า แม้จะยังไม่มีความชัดเจน มาตรการกระตุ้นดังกล่าวจะมีขนาดเท่าที่จะกระตุ้นภายในปี 2016 นี้ และการใช้มาตรการกระตุ้นทางการคลังต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลทางเศรษฐกิจ ดังนั้นจะไม่สามารถช่วยฟื้นความคาดหวังอัตราเงินเฟ้อได้ทันที

"ในทางทฤษฎี ถ้ารัฐบาลของอาเบะจะเล่น ใหญ่แล้วละก็ บีโอเจก็ควรเล่นใหญ่ด้วยเช่นกัน"  เวสตัน กล่าว

ข่าวล่าสุด

กกพ. เปิดรับฟังความเห็นร่างระเบียบโซลาร์ฟาร์มชุมชน หนุนไฟฟ้าพลังงานสะอาด