posttoday

เยอรมนีตื่นภัยก่อการร้ายจี้ปรับนโยบายรับผู้อพยพ

28 กรกฎาคม 2559

สถานการณ์การก่อการร้ายในทวีปยุโรปกลับมาปะทุอีกครั้งทั้งในฝรั่งเศสที่เจอเหตุโจมตี 2 ครั้ง ในรอบ 2 สัปดาห์ และเยอรมนีที่เกิดเหตุโจมตี 4 ครั้ง ในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

สถานการณ์การก่อการร้ายในทวีปยุโรปกลับมาปะทุอีกครั้งทั้งในฝรั่งเศสที่เจอเหตุโจมตี 2 ครั้ง ในรอบ 2 สัปดาห์ และเยอรมนีที่เกิดเหตุโจมตี 4 ครั้ง ในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์

ฮอสต์ ซีโฮเฟอร์ ผู้ว่าการแคว้นบาวาเรียของเยอรมนี เรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีทำความเข้าใจประเด็นความมั่นคงและนโยบายการเปิดรับผู้อพยพกับประชาชน พร้อมระบุว่า ประชาชนชาวเยอรมันอยู่ในภาวะที่หวาดกลัวต่อภัยก่อการร้าย โดยเฉพาะจากกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ถือเป็น ความท้าทายอย่างหนึ่งของแคว้นบาวาเรียและเยอรมนีในการป้องกันประเทศ

"ทุกการโจมตีและทุกเหตุก่อการร้ายยิ่งรุนแรงขึ้น การโจมตีของกลุ่มไอเอสกระทบต่อเยอรมนี และประชาชนต้องการให้รัฐบาลยืนหยัดต่อสู้อย่างกล้าหาญ" ซีโฮเฟอร์ ระบุ

ทั้งนี้ ในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ เกิดเหตุโจมตีในเยอรมนีถึง 4 ครั้ง ซึ่งเกิดในพื้นที่แคว้น บาวาเรียถึง 3 ครั้ง โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ก.ค. คือ เหตุชายอายุ 17 ปี ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยจากอัฟกานิสถานใช้มีดและขวานบุกทำร้ายผู้โดยสารบนรถไฟที่เมืองเวิร์ซบูร์ก ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย ก่อนเจ้าตัวจะถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต และพบธงสัญลักษณ์ของกลุ่มไอเอสในที่เกิดเหตุ

ถัดมาในวันที่ 22 ก.ค. เกิดเหตุชายวัย 18 ปี ถือสัญชาติเยอรมนีและอิหร่าน กราดยิงในเมือง มิวนิก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 27 ราย โดยตำรวจเชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุเพียงลำพัง (โลนวูล์ฟ) และได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุกราดยิงที่นอร์เวย์เมื่อปี 2011 ไม่เกี่ยวกับกลุ่มไอเอส

ต่อมาในวันที่ 24 ก.ค. เกิดเหตุผู้อพยพชาวซีเรียฆ่าหญิงชาวโปแลนด์ด้วยมีดสปาร์ต้า ในเมืองรอยท์ลิงเงน รัฐบาเดน-เวิร์ทเทมแบร์ก โดยพยานในที่เกิดเหตุระบุว่าผู้ก่อเหตุตะโกนคำว่า "อาลาบู อักการ์" หรือพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ก่อนลงมือ และในวันเดียวกันเกิดเหตุผู้อพยพชาวซีเรียระเบิดฆ่าตัวตายที่บาร์แห่งหนึ่งในเมืองอันสบาค มีผู้บาดเจ็บ 15 ราย โดย โมฮัมหมัด ดี ผู้ก่อเหตุถูกปฏิเสธสถานะการขอลี้ภัยและมีประวัติเคยเข้ารับการบำบัดทางจิต

โจอาคิม เฮอร์มัน รัฐมนตรีมหาดไทยแคว้นบาวาเรีย ระบุว่า โมฮัมหมัด ดี ครอบครองสาร ประกอบระเบิดจำนวนมากพอที่จะทำระเบิดอีกลูก ก่อให้เกิดคำถามว่าชายคนดังกล่าวได้รับเงินสนับสนุนจากแหล่งใด เพราะคนร้ายยังอาศัยอยู่ในที่พัก ผู้อพยพที่รัฐบาลจัดหาให้

หวั่นนโยบายรับผู้อพยพทำก่อการร้ายพุ่ง

จากเหตุโจมตีโดยฝีมือของผู้อพยพชาวอัฟกานิสถานและซีเรีย นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเปิดรับผู้อพยพของนายกรัฐมนตรี  อังเกลา แมร์เกิล ของเยอรมนี ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการโจมตีลักษณะโลนวูล์ฟมากขึ้นในยุโรป แม้จะมีการคุมเข้มการรับผู้อพยพก็ตาม จนเกิดเป็นกระแสโจมตีนโยบายดังกล่าวด้วยแฮชแท็ก #Merkelsommer หรือฤดูร้อนของแมร์เกิล ในสังคมออนไลน์

แฟรงก์ แดคเคอร์ ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบอนน์ ระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า การก่อเหตุของผู้อพยพที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงกับนโยบายการเปิดรับผู้อพยพของ แมร์เกิล แม้เยอรมนีจะไม่ได้เผชิญเหตุก่อการร้ายจากฝีมือของกลุ่มไอเอสโดยตรงเหมือนในฝรั่งเศสและเบลเยียม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ขัดขวางแผนโจมตีหลายครั้ง

เช่นเดียวกับพรรคทางเลือกเยอรมนี (เอเอฟดี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาที่ต่อต้านการรับผู้อพยพ ระบุว่า แมร์เกิลต้องรับผิดชอบต่อผลพวงจากนโยบายการเปิดรับผู้อพยพ ซึ่งทำให้ผู้อพยพชาวมุสลิม ที่อายุน้อย ไร้การศึกษา และมีแนวคิดสุดโต่ง ทะลักเข้าสู่เยอรมนีกว่า 1 ล้านคน แม้แมร์เกิลจะยืนยันว่า การรับผู้อพยพเข้าประเทศจะช่วยให้เยอรมนีปลอดภัยจากการก่อการร้ายในระยะยาว

อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ข่าวดิ อินดีเพนเดนท์  ระบุว่า นโยบายเปิดรับผู้อพยพของแมร์เกิลไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงการก่อการร้ายในประเทศ เนื่องจากผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้อพยพ 3 รายล่าสุด เดินทางเข้าประเทศก่อนที่แมร์เกิลจะบังคับใช้นโยบายดังกล่าว

นอกจากนี้ การเปิดรับผู้อพยพจะช่วยปกป้องเยอรมนีจากการก่อการร้าย มากกว่าการเผชิญหน้ากับเหตุโจมตีต่างๆ เนื่องจากนโยบายดังกล่าวทำให้เยอรมนีกลายเป็นที่พึ่งแห่งใหม่ของผู้ที่ได้รับผล กระทบจากสงคราม ซึ่งแตกต่างจากฝรั่งเศสและเบลเยียมที่ประกาศว่าจะต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายอย่างเต็มที่ส่งผลให้เหตุโจมตีใน 2 ประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้นและรุนแรงขึ้น

ยกตัวอย่างเหตุก่อการร้ายล่าสุดที่ชายมุสลิม 2 ราย ใช้อาวุธดาบสังหาร ฌัก ฮาเมล บาทหลวงวัย 86 ปี ก่อนทำการฆ่าปาดคอบาทหลวงอย่างโหดเหี้ยม หลังจับตัวบาทหลวง แม่ชี และชาวคริสต์ รวม 5 ราย เป็นตัวประกัน ในโบสถ์แซงต์ เอเตียน ดู รูฟเรย์ ที่เมืองรูอ็อง ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ซึ่งผู้ก่อเหตุอยู่ในบัญชีเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านกลุ่มสังเกตการณ์ ไซต์ อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า กลุ่มไอเอสส่งข้อความผ่าน แอพพลิเคชั่น เทเลแกรม ระบุว่า เตรียมโจมตีก รุงลอนดอน อังกฤษ รวมถึงกรุงวอชิงตันและมหานครนิวยอร์ก สหรัฐ เป็นแห่งต่อไป โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษสั่งคุมเข้มความปลอดภัยศาสนสถานทุกแห่งในอังกฤษ เช่น โบสถ์ วัด และมัสยิด ขณะที่กรมตำรวจเยอรมนีเตรียมกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่ม เพื่อเฝ้าระวังเหตุโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้น

ภาพเอเอฟพี