posttoday

เฟดแย้มขึ้นดอกเบี้ย โลกจับตาประชุมมิ.ย.นี้

20 พฤษภาคม 2559

เฟดเปิดเผยรายงานบันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน แย้มเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.นี้

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานบันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) เมื่อเดือน เม.ย. แย้มเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.นี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว

“คณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่า หากตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวในไตรมาส 2 เช่น สถานการณ์ตลาดแรงงานแข็งแกร่งขึ้น อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเข้าใกล้เป้าที่ 2% จึงมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.” รายงานบันทึกการประชุม ระบุ

รายงานระบุด้วยว่า คณะกรรมการเห็นพ้องต้องกันว่า ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจและภาคการเงินโลกเริ่มปรับตัวไปในทิศทางบวกมากขึ้น

อย่างไรก็ดี คณะกรรมการบางรายแสดงความกังวลต่อการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษ ซึ่งจะมีการลงประชามติเพียง 1 สัปดาห์หลังการประชุมของเฟด ขณะที่บางรายกังวลต่อภาคการบริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวและการลงทุนธุรกิจที่ลดลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง

ก่อนหน้านี้ เดนนิส ล็อกฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา และจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก เปิดเผยว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) เดือน มิ.ย. หรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2-3 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณฟื้นตัว เช่นเดียวกับ โรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส ที่ชี้ว่าอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. หรือ ก.ค.

จากการเปิดเผยรายงานบันทึกการประชุม
ของเฟด ส่งผลให้สกุลเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้น 1% อยู่ที่ 110.19 เยน/เหรียญสหรัฐ สวนทางกับราคาทองคำที่ปรับตัวลง 24 เหรียญสหรัฐ อยู่ที่ 1,255 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์

มูดี้ส์ชี้เศรษฐกิจสหรัฐ-จีนยังน่าห่วง

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส บริษัทจัดอันดับเครดิตรายใหญ่ หั่นคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ จาก 2.3% เป็น 2% หลังตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกอ่อนแอ

แถลงการณ์ของมูดี้ส์ คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากสุด 2 ครั้งในปีนี้ และคาดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) สหรัฐจะอยู่ที่ 2.3% ในปี 2017

อีเลียนา ดักการ์ กรรมการบริหารของมูดี้ส์ ระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากที่สุดคือเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงกว่าปัจจุบัน ซึ่งอาจกระทบต่อตลาดการเงินโลกอย่างมีนัยสำคัญ และอาจส่งผลให้บรรดานักลงทุนหันหนีจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง

“การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในระดับอ่อนแอ เช่นเดียวกับภาพรวมเศรษฐกิจอีกหลายประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เศรษฐกิจยังย่ำแย่กว่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา” แถลงการณ์ ระบุ

ขณะเดียวกัน มูดี้ส์คงคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจจีนที่ 6.3% ในปีนี้ โดยเศรษฐกิจจีนได้รับแรงหนุนจากการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในท้ายที่สุดอาจกลายเป็นความเสี่ยงระยะยาว โดยเฉพาะภาคการธนาคาร

มาธาวี โบกิล รองประธานและนักวิเคราะห์อาวุโสของมูดี้ส์ ระบุว่า ความกังวลต่อภาวะฮาร์ดแลนดิ้งของเศรษฐกิจจีนปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากตัวเลขทางเศรษฐกิจส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น

“อย่างไรก็ตามการที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบรรลุเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เฉพาะเจาะจง อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของการขยายตัวได้” โบกิล ระบุ

นอกจากนี้ มูดี้ส์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ชะลอตัวจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลงและภาคการส่งออกที่ซบเซา จะยังเป็นปัจจัยลบที่ฉุดเศรษฐกิจโลกในปีนี้ พร้อมคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ในกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ 20 ประเทศ (จี20) อยู่ที่ 4.2% ในปีนี้ ลดลงจาก 4.4% ในปีก่อน

หวั่นแรงงานเกาหลีใต้ตกงานนับหมื่น

บลูมเบิร์ก ระบุว่า การที่รัฐบาลเกาหลีใต้ผลักดันให้ธุรกิจที่มีหนี้ท่วมเร่งปรับโครงสร้างหนี้ อาจนำไปสู่การตกงานหลายพันอัตรา โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมต่อเรือ เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวและคู่แข่งจากจีนเริ่มตีตลาดอุตสาหกรรมต่อเรือ โดยไตรมาสแรกของปีนี้ยอดคำสั่งซื้อเรือลดลง 94%

สอดคล้องกับ ลี มินซอน นักวิเคราะห์จาก ฮานา ไฟแนนเชียล อินเวสต์เมนต์ คาดการณ์ว่า แรงงานในภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้อาจตกงานกว่า 10-15% หรือคิดเป็น 2-3 หมื่นอัตรา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมต่อเรือ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการบริโภคและเศรษฐกิจในภูมิภาค

เช่นเดียวกับ ฮา ชางมิน เจ้าหน้าที่สหภาพแรงงานของ ฮุนได เฮฟวี่ คาดการณ์ว่า ฮุนไดอาจปรับลดพนักงาน 1 หมื่นอัตราในปีนี้ พร้อมระบุว่า อาจมีการปรับลดพนักงานในภาคธุรกิจอื่นอีก

ก่อนหน้านี้ แดวู ชิปบิลดิ้ง แอนด์ มารีน เอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมปรับลดพนักงานลง 10% หรือ 1,300 อัตราภายในปี 2018 ขณะที่ ฮุนได เฮฟวี่ อินดัสตรีส์ ยื่นข้อเสนอลาออกโดยสมัครใจ หลังปรับลดพนักงานฝ่ายบริหารแล้ว 25%

อย่างไรก็ดี อี ฮยุนอ๊ก ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาคและนโยบายการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน ระบุว่า รัฐบาลกำลังทบทวนมาตรการช่วยเหลือในอุตสาหกรรมต่อเรือ โดยรัฐบาลอาจเสนอการฝึกอาชีพสำหรับแรงงานที่ตกงาน และให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บริษัทเพื่อให้ไม่ต้องมีการปลดพนักงาน

ข่าวล่าสุด

เทรดโค้งสุดท้ายของปี! SET ไซด์เวย์ 1,250 - 1,285 จุด เชียร์ซบหุ้นปันผลสูง