ผู้นำใหม่ลั่นยกเครื่องฟิลิปปินส์ เร่งกระจายอำนาจ-ขจัดความยากจน
ดูเตอร์เต วัย 71 ปี ผู้ได้รับฉายาเป็น โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งเอเชีย คว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนใหม่ เตรียมเดินหน้าขจัดความยากจน แก้รธน.เพื่อกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์
โรดริโก ดูเตอร์เต วัย 71 ปี ผู้สมัครฝีปากกล้าและอดีตผู้ว่าเมืองดาเวา คว้าตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ตามความคาดหมาย หลังการเลือกวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียงมากกว่า 15.5 ล้านเสียง ตามด้วย มานูเอล ร็อกซาส ผู้สมัครที่ประธานาธิบดี เบนิญโญ อาคิโน หนุนหลังที่ 9.3 ล้านเสียง ขณะที่ เกรซ โพ ได้ไปทั่งหมด 8.6 ล้านเสียง จากคะแนนเสียงที่นับแล้วมากกว่า 90% จาก 5.4 ล้านเสียง
หลังจากที่ดูเดอร์เตได้รับชัยชนะ ค่าเงิน เปโซแข็งค่าขึ้นเทียบเหรียญสหรัฐ 0.4% เป็น 46.89 เปโซ/เหรียญสหรัฐ เมื่อเวลา 11.48 น. ตามเวลาท้องถิ่น กรุงมะนิลา และแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 1% นับตั้งแต่จุดต่ำสุดในวันที่ 6 พ.ค.ขณะที่ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ขึ้นมากกว่า 1% หลังจากตกไปสู่จุดต่าสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม สมิธ ฉัว หัวหน้านักลงทุนของแบงก์ออฟเดอะฟิลิปปินส์ไอแลนด์ ธนาคารจัดการการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ตลาดจะกลับมาผันผวนอีกครั้งหลังจากที่นักลงทุนต่างคุ้นชินกับดูเดอร์เตแล้ว แต่ขณะนี้นักลงทุนยังให้เวลาและจะจับตามองก้าวต่อไปของดูเดอร์เตซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก
"ช่วงต่อไปจะเป็นช่วงฮันนีมูน นักลงทุนจะยังให้โอกาสดูเตอร์เตก่อนสักพักในช่วงที่นโยบายเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจนพอ เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าดูเตอร์เตได้รับความนิยมมาก นักลงทุนต่างสนใจที่จะรอดูว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไปกับความนิยมอันแข็งแกร่งนี้ และจะทำอย่างไรในการสร้างสันติภาพกับพรรคอื่นและบริหารรัฐบาล" ฉัว กล่าว
จับตาโครงสร้างพื้นฐาน-การลงทุนต่างชาติ
ในช่วงที่ประธานาธิบดี เบนิญโญ อาคิโน ครองตำแหน่งระหว่างปี 2010-2016 เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ขยายตัวเฉลี่ย 6.2% ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปี 1970 และยังทำให้ฟิลิปปินส์หลุดพ้นจากสถานะคนป่วยแห่งเอเชีย และได้รับการชื่นชมจากธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ว่าเป็นเสือตัวใหม่แห่งเอเชีย
อาคิโนชูนโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ และการดึงต่างชาติเข้ามาลงทุน อย่างไรก็ตาม แอสโตร เดล คาสติโล กรรมการผู้จัดการ เฟิสต์ เกรด โฮลดิ้งส์ บริษัทด้านการลงทุนในฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างน้อย 4 ล้านอัตรา ในสมัยอาคิโน ไม่ไปด้วยกันกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยแม้ยอดขายรถยนต์ที่สูงสุดทำสถิติ ขณะที่ถนนไม่เพียงพอ
สอดคล้องกับ จอห์น ฟอร์บส์ ที่ปรึกษาอาวุโสหอการค้าอเมริกันในฟิลิปปินส์ เปิดเผย กับบลูมเบิร์กว่า ความท้าทายแรกของอดีตผู้ว่าเมืองดาเวาคือเรื่องการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพราะการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ตามมาด้วยความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สนามบิน และท่าเรือ
ทั้งนี้ อาคิโนพยายามผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 6,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4,500 ล้านบาท) ก่อนที่จะหมดวาระ และล้มเหลวไปในเดือน มี.ค.
จากรายงานของสำนักข่าวบีบีซี ประชาชนในฟิลิปปินส์ให้เหตุผลที่เลือกดูเดอร์เตว่าไม่ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ขยายตัวเลย เช่น ประชาชนบางคนต้องเดินทางราว 2 ชั่วโมง เพื่อไปทำงาน กลับอีก 2 ชั่วโมง และได้รับรายได้แค่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพและครอบครัวโดยไม่มีเงินเก็บ
แม้การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะไปได้อย่างดี แต่ฟิลิปปินส์ยังเผชิญปัญหาความยากจน โดยประชากรถึง 1 ใน 4 ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประชากรยากจน
ก่อนหน้านี้ ดูเตอร์เต เปิดเผยว่า จะแต่งตั้งให้ คาร์ลอส โดมิงกูส์ เจ้าของโรงแรมมาร์โค โปโล และเพื่อนสนิทในวัยเยาว์ ขึ้นเป็นรัฐมนตรีคลัง หรือรัฐมนตรีคมนาคม ในขณะเดียวกันว่าที่ประธานาธิบดียังวางแผนที่แก้ไขให้ต่างชาติสามารถถือหุ้นได้มากกกว่าข้อจำกัดเดิมที่ 40% เพื่อที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ควบคู่ไปกับการประสานงานกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อผลักดันการส่งออก
โบนิฟาซิโอ ตัน ประธานหอการค้าเมืองดาเวา เปิดเผยว่า ดูเตอร์เตทำงานได้ดีในการผลักดันให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีแก่การลงทุนในเมืองดาเวา
"ดูเตอร์เตทำอย่างที่เขาพูด อาจจะเป็นคนเจ้าอารมณ์ไปหน่อยตอนที่พูด ตอนที่โมโห และบางครั้งก็ใช้คำพูดไม่เหมาะสม แต่วิธีการพูดของเขาไม่ได้แสดงให้เห็นความสามารถของ เจ้าหน้าที่รัฐที่แท้จริง" ตัน กล่าว
เตรียมแก้ รธน.กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
ปีเตอร์ ลาวินา โฆษกของว่าที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนใหม่ เปิดเผยว่า ดูเตอร์เตเตรียมผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อกระจายอำนาจจากรัฐบาลไปสู่ท้องถิ่นมากขึ้น โดยจะใช้รูปแบบการปกครองในลักษณะเดียวกับสหรัฐที่แต่ละเขตก็จะมีอำนาจในการปกครองท้องถิ่นมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลกลางในกรุงมะนิลานั้นเต็มไปด้วยการฉ้อโกงและไม่สนปัญหาท้องถิ่น
ในขณะเดียวกัน ลาวินา ระบุว่า ดูเดอร์เตจะผลักดันให้การเจรจากับกลุ่มกบฏทางตอนใต้ของประเทศ เช่นเดียวกับผลักดันให้เกิดการพูดคุยพหุภาคีในประเด็นข้อพิพาททะเลจีนใต้ขึ้น
ทางด้านการเลือกตั้งรองประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ บองบอง มาร์กอส ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ และลูกชายเพียงคนเดียวของอดีตประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ยังคงตามหลัง เลนี่ โรเบรโด ผู้สมัครอิสระด้วยคะแนน 1.36 ล้านเสียง ต่อ 1.34 ล้านเสียง


