posttoday

ทนายความค้านสมาคมนักข่าวตั้งกก.สอบปม "บิ๊กสื่อ"

13 กันยายน 2560

โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์

ข้อความเป็นหนังสือจาก “วิมล ส่งเสริมสกุล” ทนายความผู้รับมอบอำนาจว่าจะเอาผิดดำเนินคดีกับกรณีที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จะตั้งกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงกรณี “บิ๊กสื่อ” หรือผู้บริหารองค์กรสื่อสารมวลชนแห่งหนึ่งมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศพนักงานสาว ซึ่งเรื่องกำลังครึกโครมอยู่ในเวลานี้

ใจความในหนังสือดังกล่าว ระบุถึงนายกสมาคมนักข่าวฯ ว่า วิมล ในฐานะทนายความ ได้รับมอบอำนาจจากบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการเผยแพร่ข้อความ กระทบต่อเกียรติคุณของบุคคลที่อยู่ในกระแสข่าวดังกล่าว และการตั้งกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง ไม่ได้อยู่ในขอบเขตอำนาจตามข้อบังคับของสมาคมนักข่าวฯ กอปรกับยังไม่มีผู้ใดปรากฎว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ใดเป็นผู้เสียหายมาร้องเรียนด้วย

อีกทั้งกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงที่กำลังจะตั้งขึ้นนั้น ไม่ปรากฎชัดเจนว่ามีบทบาทอย่างไร ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงอย่างไร และสิ้นสุดเมื่อใด และหากได้ผลสรุปแล้วจะมีบทลงโทษสำหรับความผิดโดยอาศัยฐานอำนาจใด

ท้ายสุดที่น่าสนใจสำหรับหนังสือที่เผยแพร่ออกมา ใจความว่า การตั้งกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงนั้น มีความสุ่มเสี่ยงต่อการร่วมกันกระทำความผิดทางอาญาฐานหมิ่นประมาท

เพื่อความกระจ่างกับเรื่องนี้ที่เป็นหนังสือจากทนายความที่ชื่อวิมล ซึ่งทิ้งเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ในหนังสือดังกล่าวด้วย เมื่อยกหูสอบถาม วิมล ยอมรับว่า ได้รับมอบอำนาจให้ว่าจ้างเป็นทนายความเกี่ยวกับเรื่องนี้จริง แต่ก็ขอปฏิเสธที่จะเอ่ยชื่อถึงผู้ที่ว่าจ้าง นั้นเพราะจรรยาบรรณทางวิชาชีพกำกับเอาไว้

“ผมว่านักข่าวรู้ดีนะว่าใครว่าจ้างผม ผมเป็นทนายอาชีพ ใครจ้างก็ทำงาน แต่ผมพูดไม่ได้ว่าฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชายเป็นคนว่าจ้าง แต่ผมเชื่อว่านักข่าวรู้ดี นักข่าวเก่งๆ เยอะ” วิมล ให้คำตอบ

กระนั้น หนังสือดังกล่าววิมล บอกว่าทำส่งไปยังสมาคมนักข่าวฯ เพียงที่เดียวเท่านั้น เพื่อให้รับรู้ถึงข้อท้วงติง และไม่ได้มีเจตนาที่จะเผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะ ซึ่งไม่อาจทราบได้ว่าทำไมหนังสือจากสำนักงานทนายความของตนจึงไปสู่โลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว

“ผมรับโทรศัพท์จากสำนักข่าวต่างๆ มาเป็น 10 สายแล้วเพื่อคุยเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีสายจากสมาคมนักข่าวฯ โทรมาถึงผมแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งผมก็พร้อมจะอธิบายนะ ส่วนที่ว่าทำไมถึงต้องเป็นผมที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องวงการสื่อ ก็อย่างที่บอกไว้ว่า ผมทนายอาชีพมีคนจ้างก็ต้องทำงาน และที่ผ่านมาผมก็ทำงานให้กับหลายคน หากเอาชื่อผมไปค้นหาในกูเกิ้ลก็ต้องรู้ข้อมูล” วิมล ทิ้งท้าย

เมื่อลองเอาชื่อของ วิมล ส่งเสริมสกุล ไปค้นหาตามที่เจ้าตัวได้เอ่ยไว้ ก็ปรากฎว่า ที่ผ่านมาวิมล เคยเป็นทนายความให้กับ บริษัท โอเอไอ แมนเนจเม้นท์ จำกัด และบริษัท เวิร์ธ ซัพพลายส์ จำกัด เมื่อปี 2550 ซึ่งเป็น 2 บริษัทที่ถูก คตส.ออกคำสั่งอายัดทรัพย์ไว้ หลังจากพบว่ามีเงินที่เกี่ยวข้องจากการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ซึ่งเกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ในปี 2557 วิมล เคยเป็นทนายความให้กับนักศึกษาปริญญาโท ที่ตกเป็นผู้ต้องหาขับรถชนตำรวจตาย 3 ศพ และจัดการจนหนุ่มนักศึกษาได้รับการประกันตัวในชั้นศาล