posttoday

"สมาร์ทการ์ดพระ" ทางแก้ "มาร" ในคราบผ้าเหลือง

14 กรกฎาคม 2560

หาคำตอบวิธีการ-ขั้นตอน และความคาดหวังกับมาตรการล่าสุดในการดูแลตรวจสอบพระสงฆ์ไทยด้วยสมาร์ทการ์ด

โดย...วิรวินท์ ศรีโหมด

สมาร์ทการ์ดพระ กำลังเป็นอีกประเด็นในวงการพระสงฆ์ไทยที่ถูกพูดในขณะนี้ เพราะเป็นหนึ่งในมาตรการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่หวังนำมาแก้ปัญหาวงการพระสงฆ์ เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดปัญหามาตลอด อาทิ พระปลอม พระต่างด้าว หรือการหนีคดีมาบวช

มาตรการดังกล่าวจึงเป็นความหวังว่าจะช่วยตรวจสอบสถานะพระสงฆ์ได้ง่ายขึ้น ล่าสุด 4 ก.ค.ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติสั่งการให้ ออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เร่งหารือทุกฝ่ายเพื่อวางแนวทางจัดทำก่อนจัดสรรงบประมาณลงให้ไปดำเนินการ

โพสต์ทูเดย์ได้พูดคุยกับพระสงฆ์และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความชัดเจนและมุมมองต่อเรื่องนี้

"พระพยอม" หนุนใช้เทคโนโลยีดูแลสงฆ์

ใบสุทธิ เป็นเอกสารคล้ายหนังสือเล่มเล็กๆ ใช้แสดงตัวตน-ที่อยู่-รายละเอียดการบวชของภิกษุสามเณรเหมือนกับบัตรประจำตัวประชาชน โดยพระอุปัชฌาย์จะเป็นผู้ออกให้ แต่ต้องผ่านการลงลายมือชื่อจากพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอขึ้นไปเพื่อรับรอง แต่ปัญหาที่ผ่านมาใบสุทธิมีการปลอมแปลงสวมสิทธิกันง่ายจึงทำให้มีปัญหาในวงการพระสงฆ์กันมาตลอด

พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า เห็นด้วยกับรัฐที่นำสมาร์ทการ์ดมาใช้แก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ได้อย่างรัดกุม เพราะใบสุทธิแบบเก่าไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคนี้ได้ครอบคลุมอีกแล้ว เนื่องจากยุคสมัยเปลี่ยนจึงทำให้มีการปลอมแปลงใบสุทธิง่ายขึ้น หากมีเทคโนโลยีมาช่วยติดตามตรวจสอบพฤติกรรมความประพฤติของพระสงฆ์ หรือ ตรวจสอบผู้ที่เคยบวชแต่ต้องสึกเพราะอาบัติหนัก มองว่าเป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่จะได้ผลมากน้อยอย่างไรคงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

“เรื่องนี้เปรียบเหมือนกับอาหาร หากเรามีการซีนหรือป้องกันไว้ ก็จะไม่มีแมลงวันตอม สมาร์ดการ์ก็เช่นกัน เอาไว้เพื่อป้องกันช่องทางโอกาสของคนไม่ดีที่คิดแอบแฝงเข้ามาบวช”

“เชื่อว่าสมาร์ทการ์ดพระ จะช่วยแก้ปัญหาการบวชปลอม หนีคดีมาบวช เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีตรวจสอบเรื่องพวกนี้ได้ง่าย เหมือนตำรวจที่ใช้เทคโนโลยีกล้องวงจรปิดสืบสวนตามจับผู้ร้าย”

พระพยอม มองว่าหากปัญหาดังกล่าวปล่อยไปโดยไม่มีการทำอะไร เชื่อว่าจะเป็นช่องทางให้คนฉวยโอกาสเข้ามาย่ำยีพระพุทธศาสนาเหมือนเช่นผลประโยชน์ของวัดที่ตอนนี้กำลังเป็นประเด็นและรัฐกำลังแก้ไขอยู่ ซึ่งยอมรับว่าปัจจุบันบางวัดมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์มหาศาล

เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว มองว่าการปฏิรูปวงการสงฆ์เป็นเรื่องที่ควรต้องสังคายนา โดยดำเนินการแก้ไข เริ่มจากฝ่ายสงฆ์ร่วมกับฆราวาส เพราะหากสงฆ์แก้กันเองเกรงว่าบางครั้งอาจเกิดการเข้าข้างกันได้จนกลายเป็นข้อครหา แต่ถึงอย่างไรมองว่าการปฏิรูปวงการสงฆ์ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

“สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อพระควบคุมดูแลกันไม่อยู่ หรือมีอั้งยี่ในวงการพระ จำเป็นต้องไปขอกำลังทางโลกหรือรัฐบาล ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วย เพราะหากมีการตั้งขบวนการเช่นเดียวกับวัดบางแห่ง ก็จำเป็นต้องใช้กำลังทหารและตำรวจจำนวนมากเข้าไป เพราะพระสงฆ์ เจ้าคณะจังหวัด-เจ้าคณะหน ดูแลกันไม่อยู่แล้ว ถ้าปล่อยปัญหาให้นานจะเกิดปัญหา”

"สมาร์ทการ์ดพระ" ทางแก้ "มาร" ในคราบผ้าเหลือง

พระปลอม-บวชหนีคดี แก้ด้วยสมาร์ทการ์ด

พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่ารูปแบบสมาร์ทการ์ดพระที่กำลังดำเนินการมีรูปแบบคล้ายบัตรประชาชนทั่วไป มีรูปถ่าย ตัวเลข 13 หลักเช่นเดียวกับในทะเบียนราษฎร์ ข้อมูลวุฒิสถานะพระที่ต้องมากกว่าใบสุทธิ แต่ถึงอย่างไรยังไม่ยกเลิกใบสุทธิเดิม เบื้องต้นขั้นตอนการจัดทำขณะนี้กำลังหารือร่วมกับกรมการปกครองเพื่อวางระบบว่าจะทำอย่างไรให้ง่ายต่อการตรวจสอบข้อมูล ซึ่งหากได้ข้อสรุปจะต้องนำรายละเอียดเสนอให้มหาเถรสมาคม (มส.) พิจารณาก่อนใช้จริง

ส่วนประโยชน์มองว่าช่วยทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดของวุฒิสถานะพระในเชิงลึก เช่น พระจริงหรือไม่ บวชมานานเท่าไหร่ เคยต้องโทษคดีอะไรหรือไม่ รวมถึงป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยมีพระสงฆ์อยู่ประมาณ 2-3 แสนรูป ซึ่งมีการบวชและสึกอยู่ตลอด

“ขั้นตอนหลังเริ่มใช้สมาร์ทการ์ด เมื่อบวชแล้ว พระสังฆาธิการจะบอกให้ไปทำ แต่ขั้นตอนตรงนี้ขอวางรายละเอียดก่อน แต่หลักๆ จะใช้ตรวจสอบพระปลอม ป้องกันการปลอมแปลง และทำให้เกิดระบบฐานข้อมูลพระ เหมือนกับบัตรประชาชนเพื่อเป็นการให้ท่านแสดงตัวตนของท่าน”

"สมาร์ทการ์ดพระ" ทางแก้ "มาร" ในคราบผ้าเหลือง

1 ต.ค.เริ่มใช้สมาร์ทการ์ดพระ

ออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าระบบดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการวันที่ 1 ต.ค.นี้ เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากกรมการปกครองเป็นอย่างดี เพราะกระทรวงมหาดไทยมีฐานข้อมูลจากบัตรประจำประชาชนและใบสุทธิอยู่แล้ว จึงคิดว่าการดำเนินการจะไม่ยุ่งยาก โดยรูปแบบข้อมูลในบัตรจะมี เช่น บวชเมื่อไร จำพรรษาอยู่วัดอะไร ได้รับการเลื่อนยศสมณศักดิ์มากี่ครั้ง รวมถึงสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมได้ แต่ยืนยันจะไม่มีการยกเลิกหนังสือสุทธิบัตรพระ  

"สิ่งที่ผมอยากเห็นคือ พระทุกรูปทั่วประเทศมีบัตรสมาร์ทการ์ดพระ ซึ่งจะมีรายละเอียดของพระทั้งหมด ประวัติเป็นอย่างไร มีสมณศักดิ์อะไร บวชมากี่พรรษา หรือเคยทำผิดอะไรมาบ้าง”

"สมาร์ทการ์ดพระ" ทางแก้ "มาร" ในคราบผ้าเหลือง