posttoday

เบื้องลึกระเบิดหลอนกรุง"วัฒนา"วางไปป์บอมบ์6ครั้ง

17 มิถุนายน 2560

"วัฒนา" ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุวางระเบิดไปป์บอมบ์จริง โดยทำมาแล้ว 6 ครั้ง

ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็จับกุม "วัฒนา ภุมเรศ" อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าได้แล้วหลังควานหาตัวกันร่วมเดือน

แหล่งข่าวจากชุดสอบสวน ระบุว่า หลังการสอบสวนเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. "วัฒนา" ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุวางระเบิดไปป์บอมบ์จริง โดยทำมาแล้ว 6 ครั้ง

ครั้งแรกก่อเหตุเมื่อเวลา 23.18 น. วันที่ 9 เม.ย. 2550 มีการวางระเบิดในตู้โทรศัพท์สาธารณะของบริษัท ทีโอที สีส้ม ด้านหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ รัชโยธิน ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ทำให้ตู้โทรศัพท์ได้รับความเสียหายไฟลุกไหม้พังยับเยินจนประชาชนที่เดินอยู่บริเวณใกล้เคียงแตกตื่นวิ่งหนีอลหม่าน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นการก่อกวน ไม่ประสงค์ให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจากการทำระเบิดครั้งนี้จะทำให้เกิดไฟลุกไหม้ก่อน เพราะไม่มีเจตนาทำร้ายประชาชน

ครั้งที่ 2 เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 8 พ.ค. 2550 เหตุระเบิดตู้โทรศัพท์สาธารณะปากซอยราชวิถี 24

ครั้งที่ 3 เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 30 ก.ย. 2550 เกิดเหตุระเบิดบริเวณด้านข้างกรมแผนที่ทหารบก ติดกับกองบัญชาการทหารบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน กทม. เนื่องจากไม่ชอบพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)

ครั้งที่ 4 เกิดเหตุระเบิดด้านหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนิน ครั้งที่ 5 ได้ลอบวางระเบิดบริเวณด้านหน้าโรงละครแห่งชาติ และครั้งที่ 6 คือระเบิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

ผู้ต้องหารับสารภาพว่าตัดสินใจที่จะวางระเบิดและใส่ตะปูนำไปวางไว้ที่ห้องวงษ์สุวรรณ เพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับผู้ที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ในวันที่ทหารเข้ากระชับพื้นที่ช่วงปี 2553 จึงตัดสินใจไปวางระเบิดที่โรงพยาบาลทหารในวันที่ครบรอบรัฐประหาร

อย่างไรก็ตาม ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มสกรีนภาพจากกล้องวงจรปิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กระทั่งพบ "วัฒนา" เป็นบุคคลต้องสงสัย เดินทางมาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในเช้าวันเกิดเหตุ โดยคาดหน้ากากอนามัยและถือถุงพลาสติกต้องสงสัย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเริ่มแกะรอยจากกล้องวงจรปิด โดยพบว่า "วัฒนา" เดินทางมาที่โรงพยาบาลโดยรถโดยสารประจำทาง และไปเอารถยนต์ที่จอดไว้ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ย่านบางกรวย โดยเป็นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ และจากการตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของลูกชาย "วัฒนา"

ทั้งนี้ จากการสะกดรอยของ เจ้าหน้าที่ตำรวจนานกว่า 1 สัปดาห์ พบว่า "วัฒนา" มักจะจอดรถไว้ที่ กฟผ.ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ก่อนโดยสารรถประจำทางไปยังสถานที่เป้าหมาย ทั้งนี้พบว่า "วัฒนา" เดินทางไปโรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลรามาธิบดีด้วย แต่ไม่ทราบว่าเดินทางไปทำอะไร จึงชิงเข้าควบคุมตัวไว้ก่อน เนื่องจากหวั่นว่าจะก่อเหตุร้าย และจากการสอบปากคำวัฒนาให้การรับสารภาพในที่สุด

สำหรับบ้านพักในหมู่บ้านอัมรินทร์นิเวศน์ 1 ย่านซอยรามอินทรา 3 ของ "วัฒนา" นั้น พบว่าลักษณะของบ้านในหมู่บ้านดังกล่าวเป็นหมู่บ้านที่มีมานานหลายปี มีบ้านลักษณะตั้งแต่เป็นบ้านเดี่ยวไปจนถึงบ้านที่มีลักษณะเป็นคฤหาสน์ มีเนื้อที่ตั้งแต่กว่า 100 ตร.ว. ไปจนถึง 1 ไร่กว่า ทำให้บ้านในหมู่บ้านแห่งนี้มีมูลค่าหลายสิบล้านบาท

คุณป้ารายหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับ "วัฒนา" บอกว่า เพิ่งรู้เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. มีทหารตำรวจเข้ามาตรวจค้นที่หมู่บ้าน ตอนแรกทราบจากเพื่อนบ้านบอกว่าทหารแจ้งว่าเป็นเพื่อนบ้านมาเที่ยวหากัน ก็ยังคิดในใจว่ามากันเยอะจริงๆ หลังจากนั้นจึงได้ทราบจากข่าวว่าเป็นการค้นบ้านของ "วัฒนา"

คุณป้าคนดังกล่าว ระบุอีกว่า ปกติแล้วคนในหมู่บ้านนี้ต่างคนก็ต่างทำงานกัน ไม่ค่อยได้คุยกันมากเท่าไร เพราะลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว มีรั้วรอบขอบชิด ถ้าไม่ใช่คนที่อยู่บ้านติดกันหรือบ้านใกล้เคียงกัน ก็จะไม่ค่อยมีโอกาสได้คุยกัน จึงไม่เคยคุยกับ "วัฒนา" แต่หากเป็นไปตามข่าวที่บอกว่าเป็นคนวางระเบิดนั้นคิดว่ามันรุนแรงเกินไป ยิ่งสถานที่เป็นโรงพยาบาลด้วยแล้วจะเกิดผล กระทบต่อคนไข้หรือคนทั่วไปได้ แต่มองอีกมุมก็เข้าใจได้ว่าเป็นความแค้นที่มีต่อรัฐบาลทหาร แต่ก็ไม่ถูกต้องที่ใช้ความรุนแรง

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ได้เข้าไปพูดคุยกับวัฒนา ตั้งแต่วันแรกที่เจ้าหน้าที่คุมตัวได้แล้ว ซึ่งได้ให้การสารภาพว่าทำคนเดียว และจากพยานหลักฐานและการสอบสวนมั่นใจว่า "วัฒนา" คือผู้ก่อเหตุระเบิดที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎ และจุดอื่นๆ โดยไม่จับผิดตัวแน่นอน และรู้ตั้งแต่แรกว่าบุคคลเป้าหมายคนนี้เป็นใคร ซึ่งได้ทำการสืบสวนมาตลอด จนพบว่ามีความเชื่อมโยงกับทั้ง 3 เหตุการณ์

ในส่วนของรายละเอียด ตลอดจนภูมิหลัง แนวคิดรุนแรงหรือฝักใฝ่ทางการเมืองของ "วัฒนา" จะเกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดงหรือไม่นั้น จะเปิดเผยในวันที่ทหารส่งมอบตัวให้ตำรวจ คาดว่าภายในวันที่ 20 มิ.ย.นี้

ภาพ / ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ตำรวจนำมาเผยแพร่ชี้ให้เห็นว่าวัฒนาถือระเบิดเข้ามาในโรงพยาบาล