posttoday

ย้อน วีรกรรม โกตี๋ หอกข้างแคร่ กวนใจ คสช.

26 พฤษภาคม 2560

ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

แม้จะต้องหลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศนานนับปีแต่ชื่อของ โกตี๋-วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ยังคงถูกพูดถึง แถมโยงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุป่วน เหตุรุนแรงในระยะหลังอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด โกตี๋ ตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า จนมีผู้บาดเจ็บ 25 คน พร้อมเร่งเครื่องติดตามตัวกลับมาดำเนินคดี

“กลุ่มที่ก่อเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ เป็นพวกหลบหนีคดี ไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และแสดงท่าที ก้าวร้าว และปลุกให้มีการใช้กำลัง และปลุกระดมคนให้ใช้กำลัง ส่วนบุคคลที่ปฏิบัติการนั้น ไม่แน่ใจว่า เป็นคนกลุ่มนี้หรือไม่ แต่เป็นคนในประเทศ อาจเชื่อมโยง กลุ่มฮาร์ดคอร์ ที่เคยจับไปเมื่อครั้งที่แล้ว”

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวระบุชัดว่า หมายถึง วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋  ซึ่งที่ผ่านมา มีการปลุกระดม ผ่านโซเชียลมาโดยตลอด เราก็ดำเนินการ อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาแล้ว แต่ก็เงียบไป แต่เราประสานเพื่อขอตัวและติดตามตัวอยู่

หากย้อนวีรกรรมความเป็นมาของโกตี๋จะเห็นว่าเป็นหนึ่งในคนที่มีบทบาทเคลื่อนไหวทางการเมืองมายาวนาน

ครั้งหนึ่ง โกตี๋ ให้สัมภาษณ์โพสต์ทูเดย์ เมื่อปี 2555 ระบุว่า เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่ปี 49 กลุ่มวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กลุ่ม 24 มิถุนาฯ เป็นการ์ดให้ นปช.ก่อนจะแยกออกมาตั้งกลุ่มอิสระหลังพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เพราะแกนนำ นปช.ลดบทบาทลง

ผลงานแรกๆ ที่ทำให้คนรู้จัก โกตี๋ คือ การมีส่วนร่วมกับแดงสายฮาร์ดคอร์อื่นๆ ในการเคลื่อนไหว นการล้มการประชุมอาเซียน ซัมมิท ที่พัทยาเมื่อปี 2552

ต่อเนื่อง ด้วยการนำกำลังเข้าบุกยึดสถานีไทยคม อ.ลาดหลุมแก้ว จนเกิดเหตุปะทะกับทหาร

หลังเหตุการณ์ช่วงนั้นทางกลุ่มโกตี๋กระจัดกระจายกันไป ช่วงปี 2554 โกตี๋ ได้เข้ามาจัดวิทยุของคนเสื้อแดงอีกครั้ง พร้อมกับตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงขึ้นใน จ.ปทุมธานี แบบเอกเทศไม่ขึ้นตรงกับ นปช.

เขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะดีเจวิทยุเสื้อแดงคลื่น FM 106.10 สถานีวิทยุ..เพื่อมวลชน..(REDGARD RADIO) เรดการ์ด เรดิโอ จ.ปทุมธานี ด้วยลีลาดุดัน และถูกมมองว่ามีการปลุกปั่นมวลชน

ปี 2555 ได้นำกำลังไปชุมนุมบุกขับไล่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จนถูกสำนักงานศาลฯ แจ้งความฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน

วีรกรรมสร้างชื่อให้ โกตี๋ เป็นที่รู้จักในสังคมวงกว้างคือการนำมวลชนออกมาเคลื่อนไหวปะทะกับมวลชนฝั่ง กปปส.ที่แยกหลักสี่ช่วงเดือน ก.พ.2557 โดยก่อนหน้านั้น เคยนำมวลชนไปยังหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และเดลินิวส์ เพื่อไม่ให้นำเสนอข่าวการชุมนุมของ กปปส.

หลังจากนั้นแกนนำฮาร์ดคอร์ได้เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายนำมาสู่การถูกออกหมายจับเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2557 จากการปราศรัยออกรายการวิทยุปลุกปั่นและเข้าข่ายขัดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

จากนั้น แกนนำแดงฮาร์ดคอร์ผู้นี้จงเป็นหนึ่งใน 11 ผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีไปอยู่ประเทศลาว แต่ก็ยังคงจัดวิทยุปลุกปั่นจากฝั่งนู้น จนมีความพยายามติดตามตัวกลับมาดำนเนิคดี

หลังเงียบหายจากสื่อไปพักใหญ่ชื่อของโกตี๋ถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่บุกค้นพ้นที่ต้องสงสัย 9 จุด เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาและพบอาวุธของกลางจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ออกมาสรุปเบื้องต้นว่าพบความเชื่อมโยงเครือข่ายของ โกตี๋ ที่ยังพบการเคลื่อนไหว  ในช่วงเดียวกับที่มีการพูดถึงแผนลอบสังหารนายกรัฐมนตรี และ รองนายรัฐมนตรี

ไม่แปลกที่ หมอเหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. จะรีบออกมาปฏิเสธความเกี่ยวพันระหว่าง นปช. และ โกตี๋ ที่ไม่ได้เคลื่อนไหวร่วมกันในนามกลุ่มเสื้อแดง ปีก นปช.

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ผมจะขอตัวนายโกตี๋จากทางการลาวอยู่แล้ว เพราะมีคดีอาญาเรื่องคดีอาวุธสงครามในประเทศไทย ซึ่งก็จะทำเรื่องขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน อะไรที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย เราจะต้องทำให้สงบ โกตี๋เองควรเห็นใจประเทศ เพราะว่าเป็นคนไทย

“เวลานี้คนไทยต้องการความสงบ อยากให้ไปย้อนดูในอดีตว่านายโกตี๋เป็นใคร ทำอะไรมาบ้าง ผมย้ำว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ทำให้ผมหวั่นไหวใดๆ เลย เพราะผ่านสงครามมาเยอะ เราทำเพื่อรับใช้ชาติ ตอนนี้อายุเยอะแล้ว” 

ทว่าผ่านมาเกือบสองเดือนปฏิบัติการติดตามตัว โกตี๋ ดูจะยังไม่มีความคืบหน้า และที่สำคัญยังคงมีชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุป่วน เหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งหมดเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทางคสช.และหน่วยงานความมั่นคงจะต้องรีบสะสางไม่ให้โกตี๋ออกมาเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วน ซ้ำเติมสถานการณ์ที่กำลังไม่สู้ดีของ คสช. ในเวลานี้