posttoday

อาลัย "บรรหาร ศิลปอาชา" 83 ปี มังกรการเมือง

14 สิงหาคม 2559

ย้อนเส้นทางชีวิตจากลูกแม่ค้าขายผ้าสู่นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 เนื่องในพิธีพระราชทานเพลิงศพ "บรรหาร ศิลปอาชา"

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

การจากไปของนาย บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา วัย 83 ปี ถือเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งในวันที่ 14 ส.ค.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเทพศิรินทร์ทราวาส ราชวรวิหาร 

ภายในงานมีบรรดาบุคคลสำคัญระดับประเทศ นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง นักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน เดินทางมาร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก เพื่อมาแสดงความเคารพเป็นครั้งสุดท้ายต่อชายผู้มีชีวิตเป็นต้นแบบแก่คนรุ่นหลังปฏิเสธไม่ได้ว่า ระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่ชายร่างเล็กใจใหญ่ เจ้าของฉายามังกรสุพรรณ โลดแล่นอยู่ในความทรงจำของผู้คน ได้สร้างสีสัน สร้างวีรกรรม สร้างผลงานคุณงามความดีมากมายนานัปการ

เบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตของนายบรรหารล้วนต้องผ่านอุปสรรคขวากหนามมาอย่างโชกโชน ...

อาลัย "บรรหาร ศิลปอาชา" 83 ปี มังกรการเมือง บรรหารในวัยหนุ่มถ่ายรูปกับพ่อแม่

บรรหารเกิดเมื่อ 19 ส.ค. 2475 ณ ห้องแถวไม้เล็กๆที่เปิดเป็นร้านขายผ้าชื่อ"ย่งหยูฮง" ภายในตลาดทรัพย์สิน ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พ่อแม่ชื่อนายเซ่งกิม แซ่เบ๊ และนางสายเอ่ง แซ่ตั้ง เป็นลูกคนที่ 4 จากพี่น้องทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วยสมบูรณ์ สายใจ อุดม ดรุณี และชุมพล

ชีวิตวัยเด็กต้องทำงานสารพัด จ่ายตลาด หุงข้าว ทำกับข้าว หาบน้ำใส่ตุ่ม ช่วยแม่เย็บผ้า ขณะเดียวกันเป็นคนเรียนเก่ง ผลการเรียนเยี่ยมโดยเฉพาะวิชาคำนวณและภาษาอังกฤษ จนเพื่อนๆตั้งฉายาให้ว่า "หัวลูกคิด"

นิสัยส่วนตัวที่ได้จากพ่อคือใจบุญสุนทาน ชอบช่วยเหลือคน ขณะที่แม่ให้ความอดทน และละเอียดรอบคอบ

อายุ 18 ปีเข้ากรุงเทพฯมาอยู่กับพี่ชายซึ่งเป็นเอเยนต์จำหน่ายสุราย่านหลานหลวง งานหลักคือจัดของตามใบสั่ง เช่น เหล้า เบียร์ น้ำหวาน โซดา ใส่ท้ายรถจักรยานเอาไปส่งตามที่ต่างๆ ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเริ่มสนใจทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยใช้วิธีเรียนรู้แบบครูพักลักจำจากร้านขายวัสดุก่อสร้างใกล้บ้าน ก่อนจะเปิดบริษัท ‘สหะศรีชัยก่อสร้าง จำกัด’ ขึ้นในปี 2499

อาลัย "บรรหาร ศิลปอาชา" 83 ปี มังกรการเมือง บรรยากาศภายในสำนักงานบริษัทสหะศรีชัยก่อสร้าง

 

อาลัย "บรรหาร ศิลปอาชา" 83 ปี มังกรการเมือง เข้าพิธีวิวาห์กับแจ่มใส ศิลปอาชา คู่ชีวิต

 

ต่อสู้ฟันฝ่าดำเนินธุรกิจมาอย่างล้มลุกคลุกคลาน อาศัยความอดทน ไม่ยอมแพ้ และมัธยัสถ์อดออม ทำทุกอย่างเองทั้งหมดตั้งแต่ทำบัญชี ซื้อวัสดุอุปกรณ์ วิ่งเต้นหางานประมูล ติดต่อกู้เงินธนาคาร เขียนใบสั่งงานให้ลูกน้อง ยันปัดกวาดเช็ดถูบริษัท จนสามารถตั้งตัวได้มั่นคง

หลังประสบความสำเร็จกับหน้าที่การงานก็ไม่ลืมถิ่นฐานบ้านเกิด กลับมาบริจาคเงินบูรณะศาลหลักเมือง สร้างวัด สร้างโรงเรียน สร้างถนนหนทาง สะพาน ไฟฟ้าประปา จนถึงแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาจังหวัดสุพรรณบุรีให้เจริญรุดหน้าดังที่เห็นในทุกวันนี้

ชีวิตครอบครัวสมรสกับแจ่มใส (เลขวัต) ศิลปอาชา มีบุตรธิดาด้วยกัน 3 คนคือ หนูนา-กัญจนา ยุ้ย-ปาริชาติ และ ท็อป-วราวุธ

ปี 2517 ก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองด้วยการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในยุค"สภาสนามม้า"อันลือลั่น ปี 2519 ลงสมัครเลือกตั้งสภาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในนามพรรคชาติไทย และคว้าชัยชนะด้วยคะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคชาติไทย ในปี 2523

เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลพลเอกสุจินดา คราประยูร

อาลัย "บรรหาร ศิลปอาชา" 83 ปี มังกรการเมือง ลีลาการอภิปรายในสภา

 

ปี 2537 ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติไทย ควบคู่กับเป็นผู้นำฝ่ายค้าน สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย กระทั่งเมื่อมีการยุบสภา เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2538 และเลือกตั้งใหม่ พรรคชาติไทยมีสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งมากที่สุดจึงได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้บรรหารได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย

อาลัย "บรรหาร ศิลปอาชา" 83 ปี มังกรการเมือง ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 21

 

ผลงานสำคัญที่ได้รับการบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์คือ เป็นผู้ขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมือง ก่อนจะกลายมาเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เนื่องจากเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างมากที่สุด

ช่วงที่โลดแล่นอยู่ในสนามการเมือง ได้รับฉายาจากสื่อมวลชวนมากมาย เช่น "มังกรสุพรรณ" มาจากฐานเสียงหนาแน่นที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี หรือฉายา "เติ้ง" มาจากบุคลิกที่คล้ายกับเติ้งเสี่ยวผิง อดีตผู้นำประเทศจีน หรือ "หลงจู๊’" จากลักษณะการทำงานเหมือนเถ้าแก่ คอยดูแลตรวจตราสั่งงาน ล้วงลูก ล้วงงานทุกอย่างด้วยตัวเอง 

หลังพ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี พรรคชาติไทยยังมีบทบาทสำคัญในการร่วมรัฐบาลอีกหลายสมัย โดยคุมกระทรวงหลักที่คุ้นเคยอย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำหรับบรรหารเอง แม้ไม่ได้กลับไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ยังลงสมัครเลือกตั้งและคว้าชัยชนะแบบถล่มทลายได้ทุกครั้ง ปี 2551 จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญก็มาถึงเมื่อพรรคชาติไทยถูกยุบพรรค ทั้งยังถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 5 ปี

วาระสุดท้ายของชีวิต บรรหารดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมยังประกาศว่าเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะลงสมัครรับเลือกตั้งอีก กระทั่งถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยโรคภูมิแพ้-หอบหืดกำเริบ และถึงแก่อนิจกรรมเมื่อเวลา 04.42 น.ของวันที่ 23 เม.ย.2559

นับเป็นการปิดฉากตำนานชีวิตมังกรการเมืองอย่างถาวร...

อาลัย "บรรหาร ศิลปอาชา" 83 ปี มังกรการเมือง

ถึงบรรทัดนี้ ขอหยิบยกเอาคำกล่าวที่บรรหารเคยกล่าวไว้ในหนังสือครบรอบวันเกิด 72 ปี ใจความสำคัญนั้นบ่งบอกถึงปณิธานสุดท้ายของชีวิตได้เป็นอย่างดี ...

"เพราะชีวิตเหมือนการเดินทาง บางช่วงสนุกตื่นเต้น บางช่วงเนิ่นนาน เหน็ดเหนื่อย

การเดินทาง ทำให้เราเปลี่ยนผ่าน รู้จักผู้คน รู้จักเรื่องราวของตัวเรา ได้เรียนรู้ ได้หยุดนิ่ง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การเดินทางนี้มีข้อจำกัดอยู่เพียงสองอย่าง...สังขาร...และ...เวลา...

การเดินทางของผมมีหลายมิติ แต่ที่ปรารถนาที่สุดก็คือ ได้ใช้สังขารและเวลาที่มีอยู่อย่างมีคุณค่ามากที่สุด มีคุณค่าต่อผู้อื่น มีคุณประโยชน์ต่อแผ่นดิน มีคุณธรรมต่อครอบครัว และมีคุณภาพต่อตนเอง

การเดินทางของผมจึงมีช่วงพักน้อยมาก ทำให้ได้ทำงานหลากหลายลึกซึ้ง หลายคนที่ห่วงใยถามผมว่า ทำไมไม่หยุดทำงาน ความมั่นคงในชีวิตก็มีพร้อม แต่เมื่อเห็นว่างานคือความสุข ก็ทำให้ไม่มีทุกข์เพราะการได้ทำงาน ตรงกันข้าม ถ้าไม่ได้ทำงานดูจะเป็นทุกข์มากกว่า เวลาเห็นข่าวในพระราชสำนัก ยิ่งทำให้สำนึกว่า พระเจ้าแผ่นดินของเราทรงงานหนักยิ่งกว่า นานยิ่งกว่าเสียอีก

ผมเป็นลูกคนไทยเชื้อสายจีน ปู่ ย่า เข้ามาพึ่งเงาร่มแห่งพระบรมโพธิสมภาร ผมเกิดในประเทศไทย เติบโตได้ดีด้วยน้ำใจคนไทยในสังคม คนเราแม้เลือกที่เกิดไม่ได้ แต่เลือกสถานที่ที่จะอยู่ และสถานที่ที่จะดับได้ และผมก็เลือกแล้วว่า ไม่มีที่ใด ร่มเย็นเป็นสุขเท่า...ประเทศไทย แผ่นดินแม่ แผ่นดินเกิดแห่งนี้

การทำงานเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน เพื่อองค์พระมหากษัตริย์ จึงทำให้มีความสุข และการเดินทางของชีวิต จึงมีเป้าหมาย...เป้าหมายที่จะได้อยู่...และดับอย่างมีความหมาย...สงบ...และภูมิใจ

ผมจึงขอบคุณแผ่นดินไทย และคนไทยทุกคนที่มีส่วนทำให้ชีวิตของผมและครอบครัวมีวันนี้ วันที่เราได้สนองคุณแผ่นดิน...ด้วยการทำงาน"

หมายเหตุ-สำหรับหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพนายบรรหาร ศิลปอาชา ยังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำ เจ้าภาพจึงใคร่ขอให้ผู้มาร่วมงานที่มีบัตรรับหนังสือ สามารถนำบัตรไปขอรับหนังสือได้ ณ สถานที่ดังต่อไปนี้ 1.ที่ทำการพรรคชาติไทย ถนนสุโขทัย 2.ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี 3.แผนก Concierge โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ และโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคม 2559 

อาลัย "บรรหาร ศิลปอาชา" 83 ปี มังกรการเมือง

อาลัย "บรรหาร ศิลปอาชา" 83 ปี มังกรการเมือง

อาลัย "บรรหาร ศิลปอาชา" 83 ปี มังกรการเมือง